ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยแรงขับเคลื่อนจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แต่ท่ามกลางการพัฒนาของเทคโนโลยี AI อย่างก้าวกระโดด สิ่งที่สังคมยังขาดคือความเข้าใจและทักษะพื้นฐานในการอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีนี้อย่างมีวิจารณญาณ หรือที่เราเรียกว่า “AI Literacy” ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักว่า “ความรู้เท่าทันปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI Literacy คืออะไร ทำไมจึงกลายเป็นทักษะจำเป็นแห่งศตวรรษที่ 21
‘AI Literacy’ หรือ ‘ความฉลาดรู้ทางเอไอ’ คืออะไร?
AI Literacy เกิดจากการรวมคำว่า AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ กับคำว่า Literacy ซึ่งในอดีตหมายถึงความสามารถในการอ่านออกเขียนได้ แต่ในปัจจุบัน “Literacy” ได้ถูกนำมาใช้ในบริบทที่กว้างขึ้น เช่น Digital Literacy (ความฉลาดรู้ทางดิจิทัล) หรือ Media Literacy (ความฉลาดรู้ด้านสื่อ) ซึ่งหมายถึงความรู้เท่าทันในสื่อหรือเทคโนโลยีเหล่านั้น
ดังนั้น ความรู้เท่าทันปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Literacy คือ ความสามารถในการเข้าใจ ใช้งาน และประเมินผลการทำงานของเทคโนโลยี AI ได้อย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งรวมถึงความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการทำงานของ AI การตั้งคำถามกับผลลัพธ์ของ AI และการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างมีจริยธรรมและปลอดภัย
องค์ประกอบสำคัญในการเสริมสร้าง AI Literacy
การเข้าใจและใช้งาน AI อย่างถูกต้องเริ่มต้นจากการเรียนรู้พื้นฐานที่จำเป็น องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมสร้าง AI Literacy ให้พร้อมรับมือกับโลกยุคดิจิทัล มีดังนี้
1. รู้และเข้าใจเอไอ (Know & Understand AI)
ก่อนที่จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ การทำความเข้าใจว่า AI คืออะไร และมีหลักการทำงานอย่างไร AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่หุ่นยนต์แสนฉลาด แต่เป็นระบบที่สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล เรียนรู้จากประสบการณ์ และตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลผ่านอัลกอริทึมที่ถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อน การมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ AI จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์และเลือกใช้เทคโนโลยี AI ได้อย่างเหมาะสมกับธุรกิจ ปรับตัวเข้ากับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและระบบอัตโนมัติ ป้องกันการนำ AI ไปใช้อย่างไม่เหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ AI ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป มี AI Literacy Course จากแพลตฟอร์มชั้นนำมากมาย เช่น Coursera, edX, Udacity รวมถึงแหล่งเรียนรู้ภาษาไทยที่ให้ข้อมูลเข้าใจง่าย และมีการอัปเดตเทคโนโลยีใหม่อยู่เสมอ
2. ใช้และประยุกต์ใช้เอไอ (Use & Apply AI)
เมื่อเรามีพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประยุกต์ใช้ความรู้นั้นให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการทำงาน การเรียนรู้ หรือการใช้ชีวิตทั่วไป โดยสิ่งสำคัญคือ การใช้ AI อย่างมีวิจารณญาณ และตระหนักถึงหลักจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อผู้อื่นหรือสังคมโดยรวม
3. ประเมินเอไอ (Evaluate AI)
เมื่อ AI เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานและการตัดสินใจ ความสามารถในการตรวจสอบและประเมินผลการทำงานของ AI อย่างรอบด้านจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความถูกต้องของผลลัพธ์ ความโปร่งใสของกระบวนการ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้ในการฝึกโมเดล หนึ่งในทักษะสำคัญที่ผู้ใช้งานยุคใหม่ควรมี คือ Data Literacy หรือ ความรอบรู้ด้านข้อมูล ไม่เพียงแต่ช่วยให้สามารถอ่าน วิเคราะห์ และตีความข้อมูลได้อย่างถูกต้อง แต่ยังช่วยตรวจสอบว่าแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการฝึกสอน AI มีความเหมาะสมและปราศจากอคติหรือไม่ เพราะข้อมูลที่ไม่สมดุลหรือไม่สะท้อนความเป็นจริง อาจส่งผลให้ AI ตัดสินใจผิดพลาดหรือแสดงผลลัพธ์ที่บิดเบือนได้
4.จริยธรรมเอไอ (AI ethics)
ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์มากขึ้น การออกแบบและใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่องค์กรและผู้พัฒนาทั่วโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะในด้านการใช้ AI อย่างมีจริยธรรม หรือ Ethical AI ซึ่งครอบคลุมในเรื่อง
4.1 ความโปร่งใส (Transparency)
ความโปร่งใสของ AI หมายถึง การเปิดเผยว่าระบบ AI ทำงานอย่างไร มีการใช้ข้อมูลจากแหล่งใด และมีวิธีการตัดสินใจอย่างไร ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและเข้าใจกลไกภายในของระบบได้ง่ายขึ้น ลดความคลุมเครือที่อาจนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจ
4.2 ความรับผิดชอบ (Accountability):
การพัฒนา AI Literacy จำเป็นต้องมีผู้รับผิดชอบในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ อัลกอริทึม การเก็บข้อมูล ไปจนถึงการนำไปใช้งาน เพื่อให้สามารถตอบคำถามหรือแก้ไขปัญหาได้หากเกิดผลกระทบต่อบุคคลหรือสังคม และยังเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในภาพรวม
4.3 การลดอคติและสร้างความเป็นธรรม (Fairness & Bias Mitigation)
ระบบ AI ที่ขาดการควบคุมอาจสะท้อนอคติที่มีอยู่ในข้อมูล เช่น ความลำเอียงทางเชื้อชาติ เพศ หรือสถานะทางสังคม ดังนั้น นักพัฒนาและองค์กรจึงต้องใส่ใจในการคัดกรองข้อมูล การประเมินความเสี่ยง และการทดสอบระบบ เพื่อให้มั่นใจว่า AI ที่นำไปใช้จะไม่สร้างความไม่เป็นธรรมในสังคม
ในปี 2025 หนึ่งในแนวโน้มที่มาแรงคือ การพัฒนา AI ที่ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-Centric AI) ทั้งในด้านการออกแบบ การตัดสินใจ และผลลัพธ์ที่ได้ โดยเน้นให้ AI ทำงานเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และเคารพสิทธิ ความเป็นอยู่ และคุณค่าของมนุษย์ มากกว่าการแทนที่การทำงานหรือควบคุมมนุษย์
AI Literacy มีความสำคัญอย่างไร?

AI ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไปแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การเข้าใจและใช้งาน AI อย่างถูกต้องจึงกลายเป็นทักษะที่ทุกคนควรมี AI Literacy ถึงกลายเป็นเรื่องสำคัญดังนี้
1. การใช้งาน AI ในชีวิตประจำวัน
เทคโนโลยี AI มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด AI ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและปรากฏอยู่ในทุกกิจกรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำวิดีโอบน YouTube การตั้งปลุกผ่านผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Siri หรือ Google Assistant การใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อวางแผนการเดินทาง การวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเสนอสินค้าอย่างตรงใจ การตรวจจับความผิดปกติด้านความปลอดภัยไซเบอร์แบบเรียลไทม์ การมี ทักษะรู้เท่าทัน AI (AI Literacy) จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่แค่เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการใช้เทคโนโลยีอย่างไม่เหมาะสม เช่น ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล หรือการตัดสินใจที่ขาดความเข้าใจเชิงลึกของระบบ
2. การเตรียมพร้อมสำหรับตลาดแรงงาน
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้งานแทบทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสายเทคโนโลยี แต่ยังพบได้ในภาคธุรกิจ การแพทย์ การเงิน การศึกษา การขนส่ง และงานบริการ การมีทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงช่วยเพิ่มความได้เปรียบ เพิ่มการอยู่รอดและเติบโตในตลาดแรงงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต การเรียนรู้และเข้าใจการทำงานของ AI เช่น Machine Learning, Natural Language Processing หรือแม้แต่การใช้เครื่องมือ AI ในการทำงานประจำวัน จะช่วยให้แรงงานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ตัดสินใจได้ดีขึ้น และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมได้อย่างทันท่วงที นายจ้างจำนวนมากเริ่มมองหาผู้ที่มี AI Literacy และประยุกต์ใช้ AI ได้จริงในการทำงานต่างๆ
3. การป้องกันการถูกหลอกลวงและการใช้ AI อย่างมีจริยธรรม
ในยุคดิจิทัลที่มีข้อมูลจำนวนมาก เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย การมีทักษะ AI Literacy ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแยกแยะข้อมูลที่ถูกต้องจากข่าวปลอม (Fake News) หรือ Deepfake ที่สร้างขึ้นเพื่อหลอกลวงได้เท่านั้น แต่ยังเป็นเกราะป้องกันจากภัยคุกคามทางไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่อาศัย AI ในการโจมตี AI Literacy ยังส่งเสริมให้เกิดการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีจริยธรรม (Ethical AI Use) ไม่ว่าจะเป็นการเคารพสิทธิส่วนบุคคล การไม่ใช้ AI เพื่อสร้างความเกลียดชัง หรือการรับผิดชอบต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน AI ในระดับองค์กรและสังคม การเข้าใจหลักการทำงานของ AI และอัลกอริทึมต่างๆ ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความโปร่งใสและอคติที่อาจซ่อนอยู่ในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การลงทุนใน AI Literacy Training จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของทักษะทางเทคนิค แต่เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีความรับผิดชอบ เข้าใจเทคโนโลยี และสามารถอยู่ร่วมกับ AI ได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืนในโลกอนาคต
4. การส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
AI ช่วยให้กระบวนการต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรม บริการ การเกษตร การขนส่ง และแม้แต่ภาครัฐ มีความแม่นยำ รวดเร็ว และคุ้มค่า ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สนับสนุนให้เกิดการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างเฉพาะเจาะจงและตรงจุดมากขึ้น ในด้านเศรษฐกิจ การนำ AI มาใช้สามารถกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ เพิ่มการจ้างงานในสายงานเทคโนโลยี และส่งเสริมการเกิดสตาร์ทอัพใหม่ๆ ส่วนทางด้านสังคม AI ก็มีบทบาทในการยกระดับคุณภาพชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) การศึกษาเฉพาะบุคคล (Personalized Learning) หรือการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) การพัฒนาทักษะด้าน AI และการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม จึงเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนทั้งในมิติของเศรษฐกิจและสังคม
ตัวอย่างการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวัน

AI กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในชีวิตประจำวันของเรา โดยเข้ามามีบทบาทในหลากหลายด้านและเป็นประโยชน์ในหลายๆ ด้าน ดังนี้
- ผู้ช่วยเสมือน: เทคโนโลยี AI อย่าง Siri, Google Assistant, Gemini, และ ChatGPT เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในการจัดการงานต่างๆ เช่น การค้นหาข้อมูล การตั้งเตือน และการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ตโฮม ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
- การจดจำใบหน้า: เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการปลดล็อกสมาร์ตโฟนและใช้ในการยืนยันตัวตนในระบบต่างๆ เช่น ธนาคารออนไลน์
- การนำทางและการเดินทาง: แพลตฟอร์มแผนที่ดิจิทัล เช่น Google Maps ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลการจราจรและแนะนำเส้นทางที่ดีที่สุด ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด
- การแนะนำเนื้อหา: AI ช่วยให้แพลตฟอร์มสตรีมมิง เช่น Netflix และ Spotify สามารถแนะนำภาพยนตร์ รายการทีวี หรือเพลงที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้งาน ทำให้ประสบการณ์การใช้งานของแต่ละคนเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- การชอปปิงออนไลน์: AI ใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบของผู้ใช้ เพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการ โดยการปรับปรุงประสบการณ์การซื้อของออนไลน์และเพิ่มโอกาสในการขาย
- การบริการลูกค้า: Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถตอบคำถามและให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องมีพนักงานประจำ ทำให้การบริการเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- การดูแลสุขภาพ: AI กำลังมีบทบาทสำคัญในการวินิจฉัยโรค การวิเคราะห์ผลการตรวจทางการแพทย์ และการพัฒนาการรักษาเฉพาะบุคคล ซึ่งทำให้การดูแลสุขภาพมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- การสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ: AI ช่วยเขียนบทความ, การสร้างโพสต์บนโซเชียลมีเดีย, หรือการผลิตเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด: ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การสร้างกลยุทธ์การตลาดหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น การใช้ข้อมูลการซื้อของลูกค้าเพื่อนำมาปรับแต่งผลิตภัณฑ์
- การจัดการงานภายในองค์กร การใช้ AI ในการจัดการโครงการ เช่น Asana หรือ Trello ช่วยจัดลำดับความสำคัญของงาน การตรวจสอบการดำเนินงาน หรือการกำหนดทรัพยากรที่จำเป็น
การพัฒนาทักษะ AI Literacy
ทักษะ AI Literacy เป็นทักษะที่มีความสำคัญในยุคดิจิทัล การพัฒนา AI Literacy ช่วยให้เรามีความสามารถในการใช้เครื่องมือ AI อย่างมีประสิทธิภาพ และเข้าใจผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำ AI มาใช้ในสังคมและอุตสาหกรรม
ความสำคัญของการพัฒนาทักษะ AI Literacy
การพัฒนาทักษะ AI Literacy มีความสำคัญในหลายมิติ ดังนี้
1. การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง
โลกธุรกิจและสังคมกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี AI ซึ่งมีผลต่อทุกภาคส่วน ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการบริการลูกค้า คนที่มีทักษะ AI Literacy จะสามารถปรับตัวและเติบโตในสภาพแวดล้อมแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ดีขึ้น
2. การตัดสินใจที่มีข้อมูล
ความสามารถในการใช้ข้อมูลจาก AI เพื่อช่วยในการตัดสินใจ AI Literacy ทำให้สามารถตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการมากขึ้น
3. การเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์
AI ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ในด้านต่างๆ เช่น การสร้างเนื้อหาหรือการออกแบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
ทักษะที่จำเป็นสำหรับ AI Literacy
ทักษะที่จำเป็นสำหรับ AI Literacy มีดังนี้
1. ทำความเข้าใจพื้นฐานของ AI
การเริ่มต้นเรียนรู้ AI Literacy ควรเริ่มจากการเข้าใจพื้นฐานของเทคโนโลยี AI เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) หรือการรู้จำภาพ (Computer Vision) ซึ่งจะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของวิธีการที่ AI ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
2. การสร้างทักษะการใช้เครื่องมือ AI
เครื่องมือ AI ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ เช่น ระบบแชตบอท (Chatbots) ระบบแนะนำ (Recommendation Systems) หรือ AI สำหรับการสร้างเนื้อหา (Content Generation) เทคโนโลยีในการสร้างภาพ การเรียนรู้วิธีการใช้งานเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาสำหรับ SEO หรือการใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำการตัดสินใจทางธุรกิจ
3. ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของ AI
การพัฒนา AI Literacy ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเข้าใจวิธีการใช้เครื่องมือ AI เท่านั้น แต่ยังต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลกระทบที่ AI อาจนำมา เช่น การเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน ปัญหาความเป็นส่วนตัว ผลกระทบทางสังคมและจริยธรรม เป็นต้น
วิธีพัฒนาทักษะ AI Literacy
การพัฒนาทักษะ AI Literacy สามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- การศึกษาและเรียนรู้จากแหล่งต่างๆ ได้แก่ คอร์ส AI ออนไลน์ เช่น Coursera, edX, Udacity หรือหนังสือเกี่ยวกับ AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
- การเข้าร่วมฝึกอบรมและกิจกรรมที่มีการสอน AI โดยตรง เช่น AI Literacy Training งานสัมมนาเกี่ยวกับ AI หรือเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ
- การทดลองใช้เครื่องมือ AI ในงานที่ทำประจำ เช่น การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูล หรือการสร้างเนื้อหาด้วยเครื่องมือ AI
- การสร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญในวงการ AI เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
การพัฒนาทักษะ AI Literacy ไม่ใช่แค่การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเข้าใจผลกระทบที่ AI อาจมีต่อสังคมและธุรกิจ ช่วยให้เรามีความสามารถในการใช้งาน AI อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถประเมินผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำ AI ไปใช้งาน การพัฒนา AI Literacy จึงไม่ได้เพียงแค่ช่วยให้เราคุ้นเคยกับการใช้งาน AI เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราเข้าใจและตระหนักถึงจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีนี้ เพื่อตระเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคต หากต้องการเข้าร่วมการอบรมทักษะทางด้าน AI และ AI Literacy Course สามารถเข้ามาปรึกษาเราก่อนได้ที่ SOLUTIONS IMPACT
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AI Literacy
AI Literacy คืออะไร
AI Literacy หรือ ความรู้เท่าทันปัญญาประดิษฐ์ หมายถึง ความสามารถในการเข้าใจ ใช้งาน และประเมินผลการทำงานของเทคโนโลยี AI ได้อย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งรวมถึงความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการทำงานของ AI การตั้งคำถามกับผลลัพธ์ของ AI และการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างมีจริยธรรมและปลอดภัย
AI Literacy มีความสําคัญอย่างไร
AI Literacy มีความสำคัญอย่างมากในยุคที่เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้ในแทบทุกด้านของชีวิต ทั้งในการทำงาน การศึกษา และชีวิตประจำวัน เพราะช่วยให้สามารถ
– ใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
– ป้องกันการตกเป็นเหยื่อของข้อมูลเท็จหรืออคติที่มาจาก AI
– ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและตลาดแรงงาน
– เสริมสร้างทักษะดิจิทัลที่จำเป็นในโลกอนาคต
คนทำงานสายที่ไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี จำเป็นต้องรู้ AI Literacy ไหม?
จำเป็น เพราะ AI ถูกนำมาใช้ในทุกสายงาน ไม่ว่าจะเป็นการตลาด ทรัพยากรบุคคล บริการลูกค้า หรือบัญชี การมี AI Literacy จะช่วยให้เข้าใจเครื่องมือที่ใช้อยู่ วิเคราะห์ข้อมูลได้ดีขึ้น และทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ้าอยากเริ่มเรียนรู้ AI Literacy ควรเริ่มจากตรงไหน?
ควรเริ่มจากการทำความเข้าใจพื้นฐานของ AI ว่าทำงานอย่างไร AI ที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวันเป็นแบบไหน และผลลัพธ์ที่ได้มีข้อจำกัดหรืออคติอย่างไร จากนั้นจึงทดลองใช้งานเครื่องมือ AI ง่ายๆ เช่น ChatGPT, Grammarly, หรือ Canva AI เพื่อฝึกทักษะในการตั้งคำถาม การวิเคราะห์ผลลัพธ์ และการใช้ AI อย่างมีจริยธรรม