ทำความรู้จัก Gemma AI ชุดโมเดล AI แบบเปิด (Open Model) ทรงพลังและล้ำสมัยจาก Google โมเดล Gemma 3 คืออะไร? ทำไมถึงเป็นก้าวสำคัญของวงการ AI 2025 SOLUTIONS IMPACT จะพาทุกคนมาเจาะลึกความสามารถขุมพลังใหม่ล่าสุด รันบน GPU ตัวเดียวได้สบาย ๆ พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและธุรกิจได้ง่าย ๆ ด้วย AI ขนาดจิ๋ว (AI for business and productivity) โดยไม่ต้องลงทุนในเซิร์ฟเวอร์แพง

โมเดล Gemma คืออะไร

Gemma AI คือ เป็นโมเดล AI แบบ Open Source ที่มีขนาดเล็กกว่าโมเดล GPT-4o หรือ Gemini Ultra พัฒนาโดยทีม Google DeepMind ผู้นำด้านนวัตกรรม AI ชั้นนำของโลกให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดขัดกับคุณสมบัติทรงพลัง พร้อมรองรับการทำงานในเครื่อง (On-device) โดยไม่ต้องพึ่งระบบคลาวด์ (Cloud) หรือเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ และที่สำคัญ Google ยังเปิดให้ใช้งานฟรีในรูปแบบ Open Model โดย Google ได้เปิดตัว 2 ขนาดหลัก ๆ โดยแบ่งตามจำนวนพารามิเตอร์ (Parameters) ได้แก่ Gemma 2B และ Gemma 7B 

Gemma AI กับ 5 จุดเด่นในคอนเซ็ปต์จิ๋วแต่แจ๋วที่ให้มากกว่า AI ทั่วไป

Gemma AI กับ 5 จุดเด่นในคอนเซ็ปต์จิ๋วแต่แจ๋วที่ให้มากกว่า AI ทั่วไป

เปิด 5 จุดเด่น โมเดลขนาดเล็กแต่กลับอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติโดดเด่นเกินตัว เล่นใหญ่ไม่แพ้โมเดลขนาดใหญ่เจ้าดังในตลาด มีดังต่อไปนี้

1. โมเดลแบบเปิด (Open Models) พร้อมต่อยอดไอเดียใหม่ ๆ

  • เปิดโอกาสให้ Developer เข้าถึงและใช้งานได้ฟรี (โดยมีข้อจำกัดด้านการใช้งานเชิงพาณิชย์เล็กน้อย) 
  • ช่วยให้นักวิจัยและ Developer สามารถนำไปปรับแต่งและประยุกต์ใช้กับแอปพลิเคชันหรือโปรเจกต์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ประมวลผลเร็ว ทันใจ และใช้ทรัพยากรน้อยกว่า

  • เป็นโมเดลขนาดเล็ก แต่มีเกินตัว สามารถรันข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แถมยังใช้ทรัพยากรน้อยกว่า AI ทั่วไป
  • ตอบโจทย์อุปกรณ์ที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานหรือหน่วยความจำได้เป็นอย่างดี

3. ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย รันงานโดยไม่ต้องลงทุนในเซิร์ฟเวอร์แพง

  • ติดตั้งและรันได้ทั้งบนอุปกรณ์ส่วนตัว เช่น Laptop, Smartphone, Server ไปจนถึงระบบ Cloud 
  • Developer สามารถเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับความต้องการและทรัพยากรที่มีอยู่ได้

4. รากฐานเดียวกับ Gemini

  • สร้างจากเทคโนโลยีและงานวิจัยเบื้องหลังโมเดล Gemini ของ Google ซึ่งเป็นโมเดล AI ขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมระดับโลก
  • มั่นใจในคุณภาพ และความล้ำสมัยเดียวกับโมเดลเรือธงระดับโลก

5. ปรับแต่งโมเดลได้ตามต้องการ (Customizable & Fine-tunable)

  • Developer สามารถนำไปปรับแต่ง (Fine-tune) เพื่อพัฒนาให้ใช้งานเฉพาะเจาะจงได้ดียิ่งขึ้น เช่น การสร้าง Chatbot, ผู้ช่วยทางการแพทย์ หรือเครื่องมือช่วยเขียนโค้ด

ทำไม Gemma ถึงมีความสำคัญกับองค์กรในยุคดิจิทัล?

เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AI ระดับสูงเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพา API หรือบริการคลาวด์ ช่วยลดต้นทุนและข้อจำกัดในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้องค์กรสามารถนำ AI ไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ

5 แนวทางการนำ Gemma มาประยุกต์ใช้กับองค์กร 

5 แนวทางการนำ Gemma มาประยุกต์ใช้กับองค์กร 

สำหรับแนวทางการนำมาประยุกต์ใช้ในองค์กร ช่วยตอบโจทย์การทำงานหลากหลายด้าน โดยเฉพาะบริบทที่ต้องการใช้ AI ทุ่นเวลาในการทำงานและประหยัดทรัพยากรไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ ยังช่วยให้องค์กรควบคุมข้อมูลและนโยบายความปลอดภัยได้ดียิ่งขึ้นด้วย โดยแนวทางการนำมาประยุกต์ใช้กับองค์กร สามารถแบ่งตามฟังก์ชันการทำงานหลัก ได้แก่

1. การปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการลูกค้า (Customer Service & Support)

ในโลกธุรกิจปัจจุบันที่มีการแข่งขันละการเข้าถึงข้อมูลทำได้ง่ายกว่าเดิม ประสบการณ์ลูกค้า (User Experience) เป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ Gemma AI เป็นหนึ่งใน AI for business and marketing ที่สามารถปรับปรุงในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่การตอบคำถามอัตโนมัติแบบเก่า ๆ แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความฉลาดในการให้บริการลูกค้าให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น เช่น 

ระบบ Chatbot 

  • สำหรับคำถามที่พบบ่อย (FAQs) และการตอบคำถามเบื้องต้น เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า บริการนโยบาย ขั้นตอนการแก้ปัญหาเบื้องต้น Developer สามารถ Fine-tune เพื่อให้ AI มีความเข้าใจในบริบทและศัพท์เฉพาะทางของธุรกิจได้อย่างแม่นยำ
  • ช่วยลดภาระงานของพนักงานฝ่ายบริการลูกค้า และสามารถให้ข้อมูลลูกค้าได้อย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง

Virtual Assistant สำหรับพนักงาน 

  • เป็นผู้ช่วย AI ที่พนักงานสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงาน สวัสดิการ นโยบายบริษัท รวมถึงข้อมูลโปรเจกต์ต่าง ๆ 
  • ช่วยลดเวลาการค้นหาและเพิ่ม Productivity

2.  การจัดการและประมวลผลเอกสาร (Document Management & Processing)

ยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานไปอีกขั้น ด้วยความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และความยืดหยุ่นในการปรับใช้ ช่วยให้ประมวลผลเอกสารเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม ลดภาระงาน และลดโอกาสผิดพลาดที่เกิดจากการจัดการเอกสารด้วยวิธีเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็น

สรุปและวิเคราะห์เอกสารขนาดใหญ่ 

ช่วยประหยัดเวลาในการอ่านและทำความเข้าใจเอกสารจำนวนมาก เช่น สรุปรายงานการประชุม สร้าง Draft รายงานการตลาดหรือการวิเคราะห์ เป็นต้น

การตรวจสอบและปรับปรุงคุณภาพเอกสาร

ลดโอกาสผิดพลาดด้านไวยากรณ์ การสะกดคำ และเสนอแนะคำหรือวลีที่มีความเหมาะสมมากกว่า เพื่อให้เอกสารอ่านง่ายขึ้น เป็นทางการมากขึ้น หรือมีประสิทธิภาพในการสื่อสารมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถแปลเอกสารได้อีกด้วย

3. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analysis & Insights)

gemma ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analysis & Insights) ในองค์กร โดยเฉพาะข้อมูลแบบข้อความ (Text Data) ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data)

อีกหนึ่งจุดแข็งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ AI ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analysis & Insights) ในองค์กร โดยเฉพาะข้อมูลแบบข้อความ (Text Data) ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data) เช่น

วิเคราะห์ความคิดเห็น (Sentiment Analysis)

AI ช่วยให้องค์กรเข้าใจทัศนคติและความรู้สึกของลูกค้า (Sentiment Analysis) ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจากรีวิวสินค้า คอมเมนต์บนช่องทางโซเชียลต่าง ๆ หรืออีเมลร้องเรียน เพื่อระบุว่าข้อความนั้น ๆ มีลักษณะเป็นเชิงบวก ลบ หรือเป็นกลาง ช่วยให้องค์กรทราบระดับความพึงพอใจ ประเด็นที่ควรปรับปรุง และแนวโน้มของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

การระบุหัวข้อหลักและแนวโน้ม (Topic Modeling & Trend Analysis)

ใช้ในการค้นหาประเด็นหรือหัวข้อที่สังคมพูดถึงบ่อย ๆ จากข้อความจำนวนมาก เช่น บทความข่าว ฟอรัมออนไลน์ หรือบันทึกการสนทนา เพื่อหาหัวข้อหรือประเด็นที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ หรือกำลังเป็นที่สนใจ ณ สถานการณ์นั้น ๆ ช่วยให้องค์กรสามารถติดตามแนวโน้มของตลาด ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยได้อย่างตรงจุด 

4. การสร้างสรรค์เนื้อหาและการตลาด (Content Creation & Marketing)

นอกจากนี้ ยังเป็น AI Marketing ที่ช่วยผลักดันองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้างสรรค์เนื้อหาคอนเทนต์และแคมเปญการตลาดในสไตล์ที่ต้องการ ช่วยให้ทีมการตลาดทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น

ปรับปรุงเนื้อหาให้มีความน่าสนใจและเข้าใจง่ายกว่าเดิม

ปรับสไตล์การเขียนให้เหมาะสมกับผู้ฟังและวัตถุประสงค์ของการนำเสนอ แนะนำวลีหรือคำศัพท์ที่มีความเหมาะสมกว่า ปรับปรุงไวยากรณ์ และการสะกดคำ พร้อมปรับโทนเสียงของข้อความให้เหมาะสมกับแนวเนื้อหาที่ต้องการ 

ครีเอตแคปชันและเนื้อหาอย่างสร้างสรรค์

สร้างข้อความสั้น ๆ ที่ดึงดูดใจและน่าจดจำในแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่งจะมีความยาวและโทนเสียงที่แตกต่างกัน และยังช่วยใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง หรือ Call-to-Action (CTA) ที่มีประสิทธิภาพได้อีกด้วย

5. พัฒนาซอฟต์แวร์และ AI ภายในองค์กร (Software Development & Internal AI Solutions)

เป็น AI Tool 2025 ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์และ AI solution ภายในองค์กร ช่วยให้ Developer ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดเวลาในการเขียนโค้ด และสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ภายในองค์กรได้ง่ายกว่าเดิม

สร้างโค้ดพื้นฐาน ลดภาระการเขียนโค้ดซ้ำ ๆ 

ลดเวลาในการเขียนโค้ด ค้นหาข้อมูล อธิบายการทำงานของโค้ดในแต่ละส่วน ช่วยให้ Developer เข้าใจโค้ดที่ซับซ้อน พร้อมสร้างสรรค์และส่งมอบซอฟต์แวร์ได้เร็วกว่าเดิม

การทดสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดซอฟต์แวร์ (Software Testing & Debugging) 

ช่วยวิเคราะห์สาเหตุที่เป็นไปได้ และเสนอแนะแนวทางในการแก้ไข Bug หรือปรับปรุงโค้ดได้อย่างแม่นยำ

3 เรื่องต้องรู้ ก่อนตัดสินใจใช้ Gemma 

3 เรื่องต้องรู้ ก่อนตัดสินใจนำ gemma มาประยุกต์ใช้ในองค์กร

รวม 3 เรื่องต้องรู้ ก่อนตัดสินใจนำมาประยุกต์ใช้ในองค์กร มีดังต่อไปนี้

1. ต้องมีความรู้เทคนิคด้าน AI และ Infrastructure

การติดตั้งและใช้งานต้องอาศัยความเข้าใจเรื่องโมเดลภาษา การจัดการ GPU, Server การใช้ Library ต่าง ๆ เช่น PyTorch, JAX, Hugging Face, RAG เป็นต้น ถ้าไม่มีทีม AI หรือ DevOps ที่มีประสบการณ์หรือมีความเชี่ยวชาญด้านนี้ อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้มาก

2. คุณภาพภาษาไทยยังไม่ดีเท่าโมเดลขนาดใหญ่

ปัจจุบัน ยังไม่ได้รับการเทรนภาษามากพอ โดยเฉพาะภาษาไทย ทำให้การเข้าใจบริบท หรือการแปลยังมีข้อผิดพลาดอยู่ 

3. การอัปเดตและการซัพพอร์ตยังไม่เทียบเท่า GPT / Claude

ถึงแม้จะพัฒนาโดย Google DeepMind แต่ Community ผู้ใช้ยังไม่ใหญ่เท่าบาง Open Source เช่น LLaMA หรือ Mistral ดังนั้น การหาแนวทางแก้ปัญหาอาจต้องพึ่ง Developer ในองค์กรมากกว่า

คำถามที่พบบ่อย

Gemma แตกต่างจาก Gemini อย่างไร?

เป็นโมเดลภาษาแบบเบา (Lightweight) ที่ออกแบบให้ใช้งานได้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของผู้ใช้ เช่น Laptop หรือ Server เล็ก ๆ โดยไม่ต้องใช้ระบบ Cloud ขนาดใหญ่ ในขณะที่ Gemini เป็นโมเดล AI ขนาดใหญ่ที่เน้นใช้งานบน Cloud และเหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น

Gemma ใช้งานบนอุปกรณ์แบบไหนได้บ้าง?

– Laptop หรือ Desktop ที่มี CPU หรือ GPU รองรับ เช่น RTX 3060 ขึ้นไป
– Server ขนาดเล็กในองค์กร (On-premises)
– Edge devices ที่มีทรัพยากรพอสมควรโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ Cloud ตลอดเวลา

Gemma รองรับภาษาไทยไหม?

รองรับภาษาไทยในระดับการใช้งานทั่วไป เช่น สรุปข้อความ Chatbot ข้อมูลพื้นฐาน เป็นต้น

Gemma ใช้งานฟรี หรือมีค่าใช้จ่ายแบบรายเดือน?

สามารถใช้งานได้ฟรี ภายใต้ Apache 2.0 License องค์กรสามารถใช้เชิงพาณิชย์ ดัดแปลงหรือปรับแต่งได้