ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรง AI Marketing กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้อย่างแม่นยำขึ้น ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขาย แต่ยังช่วยลดต้นทุนด้านการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาไปรู้จักว่า AI Marketing คืออะไร มีประโยชน์และแนวทางการนำไปใช้งานอย่างไร
AI Marketing คืออะไร
การตลาดด้วยปัญญาประดิษฐ์หรือ AI Marketing คือการนำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาประยุกต์ใช้ในงานด้านการตลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างโอกาสทางธุรกิจ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดโดยอ้างอิงจากพฤติกรรมของลูกค้า เทรนด์ของตลาด และปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อธุรกิจ
จุดเด่นของ AI Marketing
AI Marketing กำลังเปลี่ยนโฉมวงการการตลาดด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล เชื่อมโยงพฤติกรรมผู้บริโภค และสร้างกลยุทธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น มาดูกันว่าจุดเด่นของ AI Marketing มีอะไรบ้าง
มีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ
AI ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นขึ้นมาแล้วหยุดอยู่กับที่ แต่เป็นระบบที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการตอบสนองต่อการใช้งานของมนุษย์ให้ดีขึ้น ยิ่ง AI ได้รับข้อมูลมากขึ้นเท่าไร ระบบก็จะสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ดีขึ้นเท่านั้น การที่ AI สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบ AI ที่สามารถประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ได้แม่นยำขึ้น AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และคาดการณ์แนวโน้มตลาด AI ที่สามารถสร้างเนื้อหาภาพและเสียงแบบอัตโนมัติ เป็นต้น ในอนาคตเราจะได้เห็น AI ที่ฉลาดขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายมากขึ้น
เจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
ปัจจุบัน AI Marketing มีบทบาทสำคัญอย่างมากใน Personalized Marketing AI สามารถประมวลผลข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อ การค้นหา และการโต้ตอบกับแบรนด์ เพื่อสร้างโปรไฟล์ลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจง ระบบ AI ของ e-commerce สามารถแนะนำสินค้าที่ลูกค้าสนใจโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่รวบรวมได้ ระบบ AI ของ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและ Google Ads ช่วยสร้างโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย โดยการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้งาน เพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาจะแสดงผลต่อกลุ่มที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ซื้อ AI Marketing จึงช่วยให้แบรนด์สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ลูกค้ารู้สึกได้รับประสบการณ์ที่ดี และเพิ่มโอกาสในการขายและการกลับมาซื้อซ้ำ
ทำงานได้ไม่มีหยุดพัก
ระบบ AI สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์โดยไม่ต้องหยุดพัก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องให้บริการลูกค้าตลอดเวลา จึงช่วยลดภาระงานที่ต้องทำซ้ำๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ Chatbot มาช่วยตอบคำถามที่พบบ่อยจากลูกค้า ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เช่น ตรวจสอบความถูกต้องของคอนเทนต์ คัดกรองรีวิว หรือแม้กระทั่งแนะนำสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ใช้ได้กับหลายธุรกิจ
AI สามารถนำไปปรับใช้งานได้กับหลายธุรกิจ ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก การเงิน การแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตลาดและการขาย จุดเด่นของ AI คือความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค และสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ ธุรกิจสามารถใช้ AI ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดได้แบบเรียลไทม์ ออกแบบโปรโมชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และปรับวิธีการขายให้สอดคล้องกับแนวโน้มตลาด
ตัวอย่างของ AI Marketing ที่พบได้ในปัจจุบัน
AI Marketing มีการนำไปใช้ในหลากหลายรูปแบบตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด โดยมีตัวอย่างดังต่อไปนี้
Social Media Marketing

AI Marketing บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด ในปัจจุบันผู้คนทุกเพศทุกวัยต่างมีบัญชีผู้ใช้งานเป็นของตัวเอง ส่งผลให้ช่องทางออนไลน์กลายเป็นเครื่องมือหลักในการทำโฆษณาของแบรนด์ต่างๆ
ตัวอย่างของ Facebook
Facebook ใช้ AI Marketing ในการปรับแต่ง News Feed และโฆษณาให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับเนื้อหาที่สอดคล้องกับความสนใจมากที่สุด โดยทำการรวบรวมและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้จากหลายแหล่งข้อมูล เช่น โพสต์ที่กดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ ระยะเวลาที่ใช้ในการดูโพสต์ต่างๆ ประเภทของคอนเทนต์ที่ให้ความสนใจ เพื่อพยากรณ์ว่าผู้ใช้ต้องการเห็นคอนเทนต์ประเภทใด และจัดลำดับความสำคัญให้โพสต์ที่น่าจะดึงดูดความสนใจมากที่สุดปรากฏบนฟีดก่อน นอกจากนั้น AI ยังใช้เทคนิคพฤติกรรมเป้าหมาย (Behavioral Targeting) และ Retargeting ในการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานและความสนใจของผู้ใช้งานเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจมากที่สุด
ตัวอย่างของ TikTok
TikTok ใช้ AI Marketing วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้อย่างละเอียดตั้งแต่ระยะเวลาที่ใช้ชมวิดีโอ การกดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ หรือการดูซ้ำ โดยระบบจะจำแนกประเภทวิดีโอที่ผู้ใช้สร้างขึ้น แล้วคัดกรองความเหมาะสม จากนั้นจึงดันวิดีโอไปสู่กลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้อัลกอริทึมของ TikTok ยังเรียนรู้แนวโน้มและพฤติกรรมผู้ชม เพื่อให้แน่ใจว่าวิดีโอที่ได้รับความนิยมจะกระจายไปสู่ผู้ใช้ที่สนใจมากขึ้น โดยเฉพาะวิดีโอจากอินฟลูเอนเซอร์ หรือคอนเทนต์ที่กำลังเป็นกระแสสังคมในขณะนั้น TikTok ยังผสาน AI กับการตลาดได้อย่างแนบเนียน ขณะที่ผู้ใช้เลื่อนดูวิดีโอ ระบบจะเลือกโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของแต่ละคน โดยอ้างอิงจากคอนเทนต์ที่เคยดูหรือโต้ตอบมาก่อน ส่งผลให้การโฆษณามีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ตัวอย่างของ Chatbot
Chatbot เป็น AI ที่ผู้ใช้งานพบเจอได้บ่อยที่สุด ไม่ว่าจะบนเว็บไซต์ของแบรนด์ธุรกิจ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์ม Social Media ต่างๆ เช่น Facebook Messenger, LINE OA และ WhatsApp Chatbot มีความสามารถที่หลากหลาย ตั้งแต่การตอบคำถามเบื้องต้นเกี่ยวกับสินค้าและบริการ การแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไปจนถึงการช่วยแก้ไขปัญหา หากคำถามมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ระบบ AI จะตอบได้ Chatbot ยังมีตัวเลือกให้ผู้ใช้งานติดต่อกับเจ้าหน้าที่จริงได้โดยตรง
Automated Emails
ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่นำ AI Marketing มาใช้ในการประมวลผลและตอบกลับอีเมลของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำ โดยมีตัวอย่างดังนี้
ตัวอย่างของ Google
Google มี AI ที่เรียกว่า Smart Reply ที่ช่วยแนะนำข้อความตอบกลับอัตโนมัติขณะเขียนอีเมล โดย AI จะประเมินเนื้อหาของอีเมลที่ได้รับ และเสนอคำตอบที่เหมาะสมในรูปแบบวลีหรือประโยคที่เป็นธรรมชาติ ผู้ใช้สามารถเลือกใช้คำแนะนำดังกล่าวได้ทันทีหรือปรับแก้ไขเพิ่มเติม รองรับการใช้งานใน Gmail, Google Chat และแอปพลิเคชันอื่นๆ ของ Google ช่วยให้การตอบกลับอีเมลสะดวกขึ้น ลดความจำเป็นในการพิมพ์ด้วยตนเอง
ตัวอย่างของ HubSpot
บริษัทด้านการตลาดชั้นนำอย่าง HubSpot มีการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลลูกค้าและปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ “Automatic Email Data Capture” ซึ่งช่วยดึงข้อมูลจากอีเมลที่ลูกค้าส่งมาโดยอัตโนมัติ ทำให้ธุรกิจสามารถรวบรวมรายละเอียดของลูกค้าหรือผู้ที่สนใจสินค้าและบริการได้อย่างครบถ้วน จึงช่วยลดภาระงานของทีมขายและการตลาด ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
ตัวอย่างของ Frase.io
Frase.io เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยในการเขียนบทความ SEO สามารถกำหนดเนื้อหา โทนการเขียน และให้ AI ทำการสร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว สร้างเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับคำค้นหาหรือการใช้คำหลัก (keywords) อย่างถูกต้อง ช่วยปรับปรุงคุณภาพของบทความให้เหมาะสมกับ SEO ด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติที่ทันสมัย ให้ผลลัพธ์เป็นบทความ SEO คุณภาพที่ส่งผลการจัดอันดับเนื้อหาใน Search Engine ต่างๆ

ประโยชน์ของการใช้ AI Marketing
การนำเอา AI Marketing มาใช้ในการตลาดมีประโยชน์ในหลายด้านดังนี้
ช่วยคาดเดาพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า
ในยุคปัจจุบันที่มีสินค้าหรือบริการมากมายให้เลือกซื้อ การคาดเดาความต้องการของลูกค้าทำได้ยากขึ้น AI Marketing จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถคาดการณ์และเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เช่น การใช้เทคนิคเชิงสถิติ ได้แก่ Statistics Decision Tree ที่เลียนแบบการตัดสินใจของมนุษย์ในการเลือกสินค้า หรือการใช้ AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและแพตเทิร์นการบริโภค เพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพและตรงใจลูกค้าได้อย่างแม่นยำ AI ยังสามารถช่วยให้ธุรกิจรู้จักลูกค้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสามารถทำนายแนวโน้มความต้องการของตลาดได้แบบ Real-Time ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจทางการตลาด และกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยวิเคราะห์การมีส่วนร่วมของลูกค้า
AI Marketing สามารถช่วยวิเคราะห์การมีส่วนร่วมของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ AI จะทำการวิเคราะห์ผลของแคมเปญต่างๆ และติดตามการตอบสนองของลูกค้าเพื่อนำไปปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ AI ยังช่วยเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นและดึงดูดลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อสินค้าหรือบริการซ้ำได้อีกครั้ง
ช่วยให้ยิงโฆษณาแม่นยำมากขึ้น
โฆษณาที่ไม่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายมักทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่พึงพอใจ และไม่สามารถกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการได้ AI Marketing จึงเข้ามาช่วยพัฒนากลยุทธ์การโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการใช้ข้อมูลจากความชอบและความสนใจของผู้บริโภค เพื่อทำนายแนวโน้มการซื้อสินค้าหรือบริการที่อาจเกิดขึ้น ทำให้การยิงโฆษณามีความแม่นยำและตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าใหม่และสร้างการตอบสนองที่ดีกว่าเดิมจากกลุ่มเป้าหมาย
ช่วยสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น
AI MarketingI ช่วยสร้าง Customer Experience การใช้งานที่ดีขึ้น AI สามารถทำงานที่มีลักษณะซ้ำซากแทนมนุษย์เช่น การตอบคำถามเบื้องต้นหรือข้อมูลพื้นฐาน ทำให้พนักงานมีเวลาไปโฟกัสกับงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้น AI สามารถทำงานได้ในหลากหลายและครอบคลุมฟังก์ชันต่างๆ ของธุรกิจ เช่น การบริการลูกค้า การจัดการข้อมูล หรือการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า AI สามารถทำงานได้รวดเร็วและยังสามารถปรับตัวเข้ากับพฤติกรรมและความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ จึงช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับลูกค้า
ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
AI Marketing ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งผ่านข้อมูลที่ถูกจัดเก็บในแพลตฟอร์มต่างๆ แบบเรียลไทม์ สามารถจับตาดูพฤติกรรมของลูกค้าและคาดการณ์ได้ว่าใครอาจกลายเป็นลูกค้าประจำในอนาคต ช่วยให้ธุรกิจทำการตลาดได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า ทำให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันหลายธุรกิจได้นำเอา AI มาใช้ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า เช่น การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในธุรกิจเครื่องสำอางเพื่อให้ลูกค้าสามารถทดลองสีลิปสติกหรือบลัชออนผ่านแอปพลิเคชัน หรือการใช้ Virtual Reality (VR) หรือ AR (Augmented Reality) เพื่อให้ลูกค้าลองเสื้อผ้าแบบเสมือนจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
เริ่มใช้งาน AI Marketing ได้อย่างไร
แม้ว่า AI Marketing จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการเสริมสร้างกลยุทธ์ทางการตลาด แต่การใช้ให้เกิดผลดีที่สุดต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจน สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นใช้งาน AI ในการตลาด ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
1. วางเป้าหมาย
การตั้งเป้าหมายที่มีความชัดเจนเริ่มต้นจากการวิเคราะห์แคมเปญหรือกิจกรรมที่ต้องการปรับปรุง จากนั้นให้คำนึงถึง KPI (Key Performance Indicator) หรือดัชนีชี้วัดผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถประเมินความสำเร็จของแคมเปญนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. อย่ามองข้ามความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
การใช้ AI Marketing ควรให้ความสำคัญกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้าในการปกป้องข้อมูลลูกค้า โดยเฉพาะในด้าน Data Privacy ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของหลักจริยธรรมข้อมูล (Data Ethics) ต้องมั่นใจว่า AI Marketing จะไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวและมีการออกแบบโปรแกรมให้สามารถปกป้องข้อมูล เพื่อรักษาความไว้วางใจและความสัมพันธ์กับลูกค้าให้มั่นคง
3. รวบรวมข้อมูลให้เชื่อถือได้ และมีจำนวนมาก
ก่อนที่จะเริ่มใช้งาน AI Marketing นักการตลาดควรมีข้อมูลที่ถูกต้องและมีจำนวนที่เพียงพอในสอน AI เพื่อพัฒนา Customer Experience และช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับแคมเปญต่างๆ ข้อมูลที่ใช้สามารถมาจากหลายแหล่ง ได้แก่
- First Party Data: ข้อมูลที่ได้จากการติดต่อโดยตรงกับลูกค้า เช่น ข้อมูลจากระบบ CRM ของธุรกิจ
- Second Party Data: ข้อมูลที่ได้จากพันธมิตรทางธุรกิจ
- Third Party Data: ข้อมูลที่ได้จากแหล่งภายนอกที่อาจต้องซื้อมา ซึ่งมีปริมาณมากแต่คุณภาพอาจไม่สูงเท่ากับข้อมูลภายใน
4. ข้อมูลต้องมีคุณภาพ
การทำความสะอาดข้อมูล (Data Cleaning) เป็นกระบวนการที่สำคัญในการใช้งาน AI Marketing เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่มีมาตรฐานจะส่งผลกระทบต่อการวิเคราะห์และการตัดสินใจ การทำความสะอาดข้อมูลจะช่วยให้ข้อมูลที่ใช้ในระบบ AI เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง มีคุณภาพ เป็นปัจจุบันและสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำ
ตัวอย่างการใช้งาน AI Marketing

การใช้ AI ในการตลาดกำลังเป็นที่นิยมในยุคดิจิทัลนี้ เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการตัดสินใจทางธุรกิจ ตัวอย่างการใช้งาน AI Marketing ที่น่าสนใจมีดังนี้
การใช้ AI เพื่อทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล
ระบบ AI ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันคือการจดจำใบหน้า (Face Recognition) หรือการตรวจจับใบหน้า (Face Detection) ซึ่งไม่เพียงแค่ตรวจสอบว่าใบหน้านั้นเป็นใคร แต่ยังสามารถวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของใบหน้าเพื่อเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ ร้านค้าจึงสามารถนำเสนอประสบการณ์การซื้อที่เป็นส่วนตัวและตรงความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน ระบบจะทำการตรวจจับใบหน้าและแสดงผลผ่านหน้าจอว่า ลูกค้าคนนี้มีความสนใจในสินค้าและบริการประเภทไหน จากนั้นจึงเสนอคำแนะนำหรือโปรโมชั่นที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของลูกค้าคนนั้น ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำการตลาดในรูปแบบที่เฉพาะบุคคลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การใช้ AI ช่วยคิดแคมเปญ วางแผนการตลาด
AI Marketing สามารถทำงานได้หลายรูปแบบ เช่น การคิดแคมเปญ การวางแผนการตลาด และการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การวัดผลการแปลงลูกค้า (Conversion) เช่น การนับจำนวนลูกค้าที่ซื้อสินค้าและยอดขายทั้งหมด รวมถึงการวิเคราะห์เส้นทางการเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยออกแบบแคมเปญที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคน เช่น การกำหนดข้อเสนอที่ตรงความต้องการหรือการให้คำแนะนำสินค้าเฉพาะบุคคล ทำให้การวางแผนการตลาดผ่าน AI เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มโอกาสในการขาย
การใช้ AI ช่วยคิดเงิน สร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น
ระบบการชำระเงินแบบไม่มีแคชเชียร์ (Cashier-less Checkout) ลูกค้าสามารถชำระเงินได้ด้วยตัวเองผ่านระบบ AI ทั้งหมด โดยไม่ต้องมีการติดต่อกับพนักงานหรือแม้แต่การพูดคุย ระบบนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและลดระยะเวลาที่ใช้ในการชำระเงิน ทำให้ประสบการณ์การซื้อสินค้ามีความสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันนี้ ธุรกิจใหญ่ๆ อย่าง Amazon, Walmart และ Kroger ได้นำเทคโนโลยีการชำระเงินแบบนี้มาใช้ ทำให้ลูกค้าสามารถทำการซื้อสินค้าผ่านการสแกนด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องมือที่ติดตั้งไว้ภายในร้านได้อย่างง่ายดาย จึงช่วยลดต้นทุนในการจ้างพนักงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ การนำเอา AI Marketing มาติดตามพฤติกรรมของลูกค้าแบบเรียลไทม์ ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็ว
จะเห็นได้ว่า AI Marketing ช่วยปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดในยุคดิจิทัล ธุรกิจที่นำ AI Marketing มาใช้ช่วยเพิ่มยอดขายและลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถปรับตัวได้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในตลาดและสร้างความได้เปรียบในด้านการแข่งขัน หากต้องการเพิ่มพูนความรู้และทักษะ AI Marketing สถาบันฝึกอบรม Solutions Impact มีบริการฝึกอบรม AI Marketing Course ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจและนำ AI Marketing ไปใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยว AI Marketing
AI Marketing คืออะไร
AI Marketing หรือ การตลาดด้วยปัญญาประดิษฐ์ คือการนำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาประยุกต์ใช้ในงานด้านการตลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างโอกาสทางธุรกิจที่แม่นยำยิ่งขึ้น
AI Marketing tools มีอะไรบ้าง
เครื่องมือ AI ในการตลาดมีหลายตัวที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาดออนไลน์ให้กับธุรกิจต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น
– HubSpot ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และช่วยในการสร้างเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมเพื่อดึงดูดลูกค้า เครื่องมือนี้รวมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การจัดการแคมเปญ การตลาดผ่านอีเมล และการพัฒนาคอนเทนต์ที่ใช้ AI ช่วยในการแนะนำกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
– Mailchimp ใช้ AI ช่วยในการสร้างแคมเปญอีเมลที่มีประสิทธิภาพ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจากแคมเปญก่อนหน้าและพฤติกรรมของผู้รับ
– Copy.ai เครื่องมือช่วยสร้างเนื้อหาการตลาด เช่น โพสต์ในโซเชียลมีเดีย และบทความ โดย AI จะช่วยสร้างข้อความที่น่าสนใจและตรงกับจุดประสงค์ของธุรกิจ
– Hootsuite ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากโพสต์ต่างๆ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ช่วยปรับกลยุทธ์การโพสต์ การเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา และการติดตามผลการดำเนินการผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล AI
AI Marketing มีอะไรบ้าง
AI ในการตลาดสามารถช่วยทำหลายด้านได้ เช่น
– Personalization AI สามารถช่วยให้การตลาดถูกปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน เช่น การแนะนำสินค้าที่ลูกค้าน่าจะสนใจ หรือการปรับแคมเปญโฆษณาให้เหมาะสมกับพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้า
– Automation AI สามารถช่วยในการทำงานต่างๆ อัตโนมัติ เช่น การส่งอีเมลการตลาดที่ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า การสร้างและจัดการโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย หรือการวิเคราะห์ผลการตลาด
– Customer Insights AI ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลจากพฤติกรรมและข้อมูลการซื้อของลูกค้า เพื่อนำมาสร้างกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ
– Chatbots & Virtual Assistants ใช้ AI ในการสร้าง chatbot หรือผู้ช่วยเสมือนที่สามารถตอบคำถามลูกค้าได้ตลอดเวลา และช่วยให้ประสบการณ์ของลูกค้าดีขึ้น
– Content Generation AI ยังช่วยในการสร้างเนื้อหาสำหรับการตลาด เช่น การเขียนบล็อกโพสต์ การสร้างคำโฆษณา หรือการผลิตคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย