ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์งานต่างๆ การเขียน Prompt ที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นทักษะที่จำเป็น เพื่อให้ AI สามารถตอบสนองได้อย่างแม่นยำและตรงความต้องการมากที่สุด บทความนี้จะพาไปรู้จักว่าการเขียน Prompt คืออะไร หลักการสำคัญของการเขียน Prompt ที่ดี พร้อมเคล็ดลับที่จะช่วยให้สื่อสารกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
การเขียน Prompt AI คืออะไร
การเขียน Prompt คือ การสร้างชุดคำสั่ง ข้อความ หรือชุดคำถามป้อนเข้าไปในระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้ AI สร้างคำตอบหรือเนื้อหาตามที่ต้องการ โดย prompt อาจอยู่ในรูปแบบของข้อความสั้นๆ หรือคำอธิบายที่มีรายละเอียดเชิงลึก ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน การเขียน Prompt ที่ดี มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพของผลลัพธ์ที่ AI สร้างขึ้น prompt ที่มีความชัดเจนและตรงประเด็น จะทำให้ AI สามารถประมวลผลและตอบกลับได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ในทางกลับกัน หาก prompt กำกวมหรือขาดข้อมูลสำคัญ AI อาจสร้างคำตอบที่ไม่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้
เขียน Prompt AI อย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ

การสื่อสารกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับวิธีการเขียน Prompt หากกำหนดคำสั่งอย่างถูกต้อง ชัดเจน และมีบริบทที่เพียงพอ จะช่วยให้ AI สร้างผลลัพธ์ที่ตรงความต้องการมากยิ่งขึ้น โดยเคล็ดลับในการเขียน prompt ที่ช่วยให้การใช้งาน AI ให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น มีดังต่อไปนี้
1. ระบุวัตถุประสงค์ชัดเจน
การเขียน Prompt ขั้นตอนแรกคือการระบุวัตถุประสงค์อย่างชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ AI เข้าใจบริบทและให้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับความต้องการ รวมทั้งลดโอกาสที่ผลลัพธ์จะคลาดเคลื่อนหรือไม่ตรงประเด็น
2. ใช้คำถามที่เฉพาะเจาะจง
สร้างคำสั่งที่ชัดเจน เพื่อช่วยให้ AI เข้าใจได้ทันทีว่าผู้ใช้ต้องการให้ทำอะไร ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและกระชับ หลีกเลี่ยงการใช้คำพรรณนา การบรรยายที่ไม่จำเป็น รวมทั้งการใช้ประโยคที่ซับซ้อนหรือคำศัพท์ที่คลุมเครือ ระบุคำสำคัญหรือคำที่ต้องการ เพื่อช่วยให้ AI ประมวลผลคำสั่งได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างถูกต้อง
3. ให้บริบทที่เพียงพอ
การให้ข้อมูลประกอบเพิ่มเติมจะช่วยให้ AI เข้าใจและสร้างเนื้อหาที่ตรงความต้องการมากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนธุรกิจ ควรระบุรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของธุรกิจ เป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงกลุ่มเป้าหมาย ข้อมูลที่ครบถ้วนจะช่วยให้ AI สามารถให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง มีประโยชน์ ช่วยลดความคลาดเคลื่อนของข้อมูล และทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีคุณภาพสูงขึ้น
4. ใช้รูปแบบที่ชัดเจน
ควรระบุรูปแบบคำตอบที่ต้องการให้ชัดเจน การเขียน Prompt สามารถระบุคำสั่งได้ เช่น “โปรดสรุปเทคนิคการบริหารเวลาให้อยู่ในรูปแบบ Bullet Points” หรือ “ช่วยจัดลำดับขั้นตอนการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานเป็นลิสต์ที่เข้าใจง่าย นอกจากนั้นยังสามารถระบุความยาวของคำตอบ โทนภาษา เช่น ทางการหรือเป็นกันเอง รวมทั้งระบุโครงสร้างเฉพาะ เช่น “อธิบาย 3 วิธีปรับปรุงการประชุมให้มีประสิทธิภาพในรูปแบบตารางเปรียบเทียบ” ได้ด้วย
5. ปรับแต่งและทดลอง
ควรทดสอบและปรับปรุง prompt อย่างต่อเนื่อง ลองเขียน prompt หลายๆ แบบเพื่อสังเกตผลลัพธ์ที่ได้ และปรับแก้ให้มีความชัดเจนและตรงประเด็นมากขึ้นจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
6. ใช้ภาษาที่สุภาพและมีมารยาท
AI ถูกออกแบบมาให้โต้ตอบกับผู้ใช้ในลักษณะที่เป็นมิตรและมีมารยาท ดังนั้นการเขียน Prompt ด้วยคำสั่งที่มีความสุภาพ AI มักจะตอบสนองด้วยภาษาที่มีความเป็นทางการและชัดเจน เช่น
ควรใช้ “กรุณาอธิบายหลักการทำงานของ Neural Networks พร้อมตัวอย่างการใช้งาน”
ไม่ควรใช้ “บอกเรื่อง Neural Networks มาหน่อย”
การเขียน Prompt ที่ดี สำหรับ ChatGPT และ Gemini มีวิธีการอย่างไร

ChatGPT และ Gemini ถือเป็น AI ที่ได้รับความนิยมสูง ใช้งานได้ง่าย และมีประสิทธิภาพ หากผู้ใช้งานรู้เทคนิคการเขียน Prompt ChatGPT และ Gemini ที่ดี จะทำให้ AI สร้างคำตอบที่แม่นยำและได้ผลลัพธ์ตามต้องการมากขึ้น
5 เทคนิคการเขียน Prompt อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ
1. ใช้คำสั่งที่ชัดเจนและให้รายละเอียดครบถ้วน
การเขียน Prompt ที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการกำหนดคำสั่งที่ชัดเจน พร้อมให้รายละเอียดที่จำเป็นเพื่อให้ AI เข้าใจความต้องการได้อย่างถูกต้อง แนวทางที่ได้รับการแนะนำจากแพลตฟอร์มชั้นนำ เช่น Google Gemini และ OpenAI คือการแบ่งโครงสร้างของ Prompt ออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ Persona, Task, Context และ Format
องค์ประกอบ 4 ส่วนของการเขียน Prompt ที่ดี
- Persona: กำหนดบทบาทของ AI เช่น “คุณเป็นนักวิเคราะห์การตลาด” หรือ “คุณเป็นนักเขียน SEO”
- Task: ระบุงานที่ต้องการ เช่น “วิเคราะห์แนวโน้มตลาดปี 2025” หรือ “เขียนบทความเกี่ยวกับสุขภาพ”
- Context: ให้ข้อมูลเสริมเพื่อเพิ่มความแม่นยำ เช่น “เนื้อหานี้จัดทำเพื่อผู้อ่านที่สนใจลงทุนในหุ้น”
- Format: กำหนดรูปแบบผลลัพธ์ เช่น “แสดงเป็นหัวข้อย่อย” หรือ “จัดทำเป็นตารางเปรียบเทียบ”
ตัวอย่าง Prompt ที่มีองค์ประกอบครบ
“คุณเป็นนักวิเคราะห์ธุรกิจ (Persona) โปรดจัดทำรายงานแนวโน้มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปี 2025 (Task) โดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และเน้นผลกระทบต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Context) นำเสนอรายงานในรูปแบบสรุปเป็นหัวข้อย่อย พร้อมตารางเปรียบเทียบ (Format)”
2. ปรับค่า Temperature ให้เหมาะสมกับเป้าหมาย
ค่า Temperature เป็นหนึ่งในพารามิเตอร์สำคัญที่ช่วยกำหนดการตอบสนองของ AI มีบทบาทในการควบคุมระดับความสร้างสรรค์และความแม่นยำของผลลัพธ์ โดยค่า Temperature ในการเขียน Prompt มีระดับในช่วง 0 ถึง 1 ดังนี้
- ค่า Temperature ต่ำ (0-0.3): AI จะให้คำตอบที่มีความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น รายงานทางวิชาการ การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการตอบคำถามเชิงข้อเท็จจริง
- ค่า Temperature ปานกลาง (0.4-0.6): AI จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถให้คำตอบที่มีความหลากหลายแต่ยังคงความน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับการแนะนำสินค้า การให้ข้อมูลเชิงลึก และงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ในระดับปานกลาง
- ค่า Temperature สูง (0.7-1): AI จะเน้นไปที่ความสร้างสรรค์และความหลากหลายของคำตอบ อาจมีการพลิกแพลงเนื้อหาและให้ไอเดียที่แปลกใหม่ เหมาะสำหรับการเขียนเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์ แนวคิดหรือการพัฒนาไอเดียใหม่ๆ แม้ว่าการตั้งค่า Temperature สูงจะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็อาจเพิ่มโอกาสให้ AI สร้างข้อมูลที่ไม่แม่นยำหรือคลาดเคลื่อนได้
3. ใช้เทคนิค Few Shot Prompting เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
การเขียน Prompt ที่มีการให้ตัวอย่างของคำตอบที่ต้องการอย่างชัดเจนและมีความหลากหลายจะช่วยให้ AI เข้าใจบริบทได้ดีขึ้น เข้าใจโครงสร้างและโทนที่ต้องการมากขึ้น ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำมากขึ้น
ตัวอย่าง Few Shot Prompt:
“โปรดเขียนคำอธิบายสินค้าที่กระชับและน่าสนใจ โดยใช้ตัวอย่างต่อไปนี้:
ผลิตภัณฑ์: สมาร์ตวอทช์ คำอธิบาย: นาฬิกาอัจฉริยะที่ช่วยติดตามสุขภาพของคุณแบบเรียลไทม์
ผลิตภัณฑ์: หูฟังไร้สาย คำอธิบาย: คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน”
4. ใช้หลักจิตวิทยาในการเขียน Prompt (Psychological Prompt)
การเขียน Prompt AI โดยการใช้ Psychological Prompt เป็นการกระตุ้น AI ให้สร้างคำตอบที่มีอารมณ์ ความน่าเชื่อถือ และความลึกซึ้ง สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ได้อย่างมาก ทำให้ AI สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
- ใช้ภาษาที่กระตุ้นอารมณ์และความเร่งด่วน เช่น “คุณเป็นนักเขียนด้านการตลาด โปรดสร้างคำโฆษณาที่เร้าอารมณ์และกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อทันที
- กระตุ้นความใส่ใจในรายละเอียด เช่น “ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลนี้อย่างละเอียดรอบคอบ เพราะผลลัพธ์ที่คุณให้มีผลกระทบต่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ขององค์กร
5. โต้ตอบและให้ Feedback กับ AI

อย่ามอง AI เป็นเพียงเครื่องมือทำงานแต่ควรมีการพูดคุย สนทนา โต้ตอบและปรับแต่ง Prompt อย่างต่อเนื่อง เช่น
ให้คำชม: “คำตอบที่ให้มีประโยชน์มาก”
แจ้งสิ่งที่ต้องปรับปรุง: “ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดล่าสุด”
ถามคำถามต่อเนื่อง: “มีข้อมูลเชิงสถิติที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้หรือไม่?”
สรุป
การเขียน Prompt อย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้ AI สร้างคำตอบที่ตรงตามความต้องการมากขึ้น เทคนิคสำคัญคือการกำหนด Persona, Task, Context และ Format อย่างชัดเจน พร้อมทั้งปรับค่า Temperature ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ การใช้ตัวอย่าง (Few Shot Prompting) และหลักจิตวิทยาในการตั้งคำถามสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพของผลลัพธ์ได้ การโต้ตอบและให้ Feedback อย่างต่อเนื่องยังช่วยปรับแต่งคำตอบให้แม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อใช้แนวทางเหล่านี้ร่วมกัน จะทำให้สามารถสื่อสารกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
หากต้องการฝึกฝนทักษะการเขียน Prompt Gemini และ ChatGPT Prompt เรียนรู้หลักกการการเขียน Prompt ที่ดี เข้ามาปรึกษาที่ SOLUTIONS IMPACT ได้ เราเป็นสถาบันฝึกอบรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความรู้ความเข้าใจทางด้านเทคโนโลยี AI โดยเน้นการปฏิบัติจนสามารถนำไปใช้งานได้จริง สามารถเข้ามาปรึกษาเราก่อนได้ที่ SOLUTIONS IMPACT หรือ LINE
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การเขียน Prompt
Prompt AI คืออะไร
Prompt คือ ชุดคำสั่ง ข้อความ หรือชุดคำถามที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไปในระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้ AI สร้างคำตอบหรือเนื้อหาตามที่ต้องการ โดย prompt อาจอยู่ในรูปแบบของข้อความสั้นๆ หรือคำอธิบายที่มีรายละเอียดเชิงลึก ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน
โครงสร้างของ Prompt ที่ดีเป็นอย่างไร
โครงสร้างของ prompt ที่ดีคือการแบ่งโครงสร้างของ Prompt ออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่
– Persona: กำหนดบทบาทของ AI เช่น “คุณเป็นนักวิเคราะห์การตลาด” หรือ “คุณเป็นนักเขียน SEO”
– Task: ระบุงานที่ต้องการ เช่น “วิเคราะห์แนวโน้มตลาดปี 2025” หรือ “เขียนบทความเกี่ยวกับสุขภาพ”
– Context: ให้ข้อมูลเสริมเพื่อเพิ่มความแม่นยำ เช่น “เนื้อหานี้จัดทำเพื่อผู้อ่านที่สนใจลงทุนในหุ้น”
– Format: กำหนดรูปแบบผลลัพธ์ เช่น “แสดงเป็นหัวข้อย่อย” หรือ “จัดทำเป็นตารางเปรียบเทียบ”
ตัวอย่างการเขียน Prompt AI เขียนยังไง
ตัวอย่างการเขียน Prompt AI เช่น
– Persona : คุณเป็นนักเขียน SEO ที่เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโภชนาการ
– Task : เขียนบทความเกี่ยวกับ “10 อาหารที่ช่วยเพิ่มพลังงานระหว่างวัน”
– Context : เนื้อหานี้มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนทำงานและนักเรียนที่ต้องการรักษาสุขภาพและเพิ่มสมาธิ
– Format : บทความ 1,200 คำ แบ่งเป็นหัวข้อย่อย พร้อม Bullet Points และคำอธิบายที่กระชับ