ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกมิติของการทำงาน การประชุมแบบเดิม ๆ ที่เสียเวลาและไม่เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน กำลังถูกแทนที่ด้วย Smart Meeting หรือระบบการประชุมอัจฉริยะ ที่รวมเอา Smart Meeting Room, Smart Meeting AI, และ Smart Meeting App มาใช้ร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร วางแผน และตัดสินใจขององค์กร ด้วยนวัตกรรม Smart Meeting Room Technology และ Smart Meeting Room Design ที่รองรับทั้งการประชุมในสถานที่และแบบไฮบริด องค์กรจึงสามารถดำเนินงานได้อย่างคล่องตัว รองรับความเปลี่ยนแปลงในปี 2025 ที่ AI เทรนด์กำลังมาแรงได้อย่างมั่นใจ
Smart Meeting คืออะไร
Smart Meeting คือกระบวนการประชุมที่ผสมผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ากับการจัดการประชุม ไม่ว่าจะเป็นระบบการจองห้องประชุมอัตโนมัติ การแชร์เอกสารผ่านคลาวด์ การจดบันทึกประชุมด้วย AI หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจ จุดเด่นของ Smart Meeting อยู่ที่ความสามารถในการลดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับผู้เข้าร่วมประชุม ทั้งยังตอบโจทย์องค์กรยุคดิจิทัลที่ต้องการความรวดเร็วและแม่นยำในการทำงาน
ทำไมต้องเปลี่ยนสู่ Smart Meeting

การเปลี่ยนมาใช้ Smart Meeting ไม่ใช่แค่เรื่องของการตามกระแส แต่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของโลกธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องการความเร็ว ความแม่นยำ และความยืดหยุ่น การประชุมแบบเดิมมักเสียเวลาไปกับการหาห้อง วางแผนเอกสาร หรือแม้แต่บันทึกผลประชุมแบบไม่เป็นระบบ ในขณะที่ Smart Meeting ช่วยให้องค์กรลดความซ้ำซ้อน ประหยัดเวลา ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้ Smart Meeting Room Solution ยังสามารถทำให้องค์กรติดตามผลการประชุมได้แบบเรียลไทม์ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ
เทคโนโลยีหลักของ Smart Meeting เป็นอย่างไร
เทคโนโลยีที่ใช้ใน Smart Meeting ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด ตั้งแต่การใช้ AI เพื่อจดบันทึกและสรุปการประชุม ระบบเสียง-ภาพอัตโนมัติ เทคโนโลยี IoT ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ไปจนถึง Smart Meeting App ที่ใช้จัดการประชุมล่วงหน้า แชร์เอกสาร แจ้งเตือนวาระการประชุม (Smart Meeting Agenda) และส่งสรุปการประชุมอัตโนมัติ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ประชุมที่ไร้รอยต่อ ทั้งในรูปแบบการประชุมในสถานที่เดียวกัน หรือประชุมจากระยะไกล
องค์ประกอบของ Smart Meeting Room ห้องประชุมอัจฉริยะ มีอะไรบ้าง

การออกแบบห้องประชุมให้กลายเป็น Smart Meeting Room ต้องมีองค์ประกอบครบถ้วนเพื่อรองรับการใช้งานที่ลื่นไหล ดังนี้
- ระบบจองห้องประชุมอัจฉริยะ (Smart Booking System)
ผู้ใช้สามารถจองห้องผ่านแอปหรือตารางออนไลน์ได้ทันที พร้อมระบุวาระและผู้เข้าร่วม - จอแสดงผล/ระบบแสดงภาพคุณภาพสูง
รองรับทั้งการนำเสนอภาพ วิดีโอ หรือการแชร์หน้าจอจากอุปกรณ์ต่าง ๆ - ไมโครโฟนและกล้องคุณภาพสูง
เพื่อการประชุมทางไกลที่ชัดเจนทั้งภาพและเสียง - AI Assistant สำหรับบันทึกและสรุปการประชุม
ใช้เทคโนโลยี AI ในการจับบทสนทนา สรุปสาระสำคัญ และแจกจ่ายผลประชุม ซึ่งจำเป็นต้องมี AI Literacy หรือความฉลาดรู้ทางเอไอ ในการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง - ระบบควบคุมสิ่งแวดล้อมในห้องอัตโนมัติ
เช่น การปรับแสง เสียง อุณหภูมิ ให้เหมาะสมกับการประชุม - การเชื่อมต่อแบบ Multi-platform
รองรับการประชุมจากทุกอุปกรณ์ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก
ประโยชน์ของการทำ Smart Meeting
Smart Meeting ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือการเปลี่ยนวิธีคิดและบริหารจัดการประชุมที่ทำให้เกิดผลลัพธ์จริง
- ลดเวลาในการเตรียมประชุม
ด้วยระบบจัดการวาระ (agenda) และการจองห้องอัตโนมัติ - ลดข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูล
ด้วยระบบ AI ที่จดบันทึกและจัดทำรายงานอัตโนมัติ - เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างทีม
ด้วยระบบแชร์เอกสารและการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ - ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านทรัพยากรและเวลาเดินทาง
โดยเฉพาะเมื่อใช้การประชุมระยะไกลหรือไฮบริด - สร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัย
พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในปี 2025 และอนาคต
ขั้นตอนสู่การจัด Smart Meeting ที่ประสบความสำเร็จ
การจะจัด Smart Meeting ให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่การติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ยังต้องวางแผนและปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องกันด้วย โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
- วางเป้าหมายของการประชุมให้ชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตงาน สรุปผล หรือตัดสินใจ ควรกำหนดจุดมุ่งหมายให้แน่ชัดก่อนการประชุม - จัดทำ Smart Meeting Agenda ล่วงหน้า
ใช้แอปหรือระบบจัดการประชุมในการสร้างวาระประชุม พร้อมแนบเอกสารประกอบ - ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับองค์กร
เลือก Smart Meeting Room Solution และ Smart Meeting App ที่เข้ากับรูปแบบการทำงานของทีม - จัดห้องประชุมที่เหมาะสมกับจำนวนคนและรูปแบบการประชุม
เช่น การประชุมระยะไกลควรมีจอภาพขนาดใหญ่ กล้องคุณภาพสูง และไมโครโฟนรอบทิศทาง - ฝึกอบรมพนักงานให้คุ้นเคยกับระบบ
ให้ทีมเข้าใจการใช้แอป การแชร์ไฟล์ การใช้ AI ในการประชุม เพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ - ประเมินผลและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ
หลังประชุม ควรมีระบบฟีดแบ็กหรือแบบสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลและพัฒนาการประชุมในครั้งต่อไป
Smart Meeting App แนะนำยอดนิยม 2025 ที่องค์กรส่วนใหญ่เลือกใช้

ในตลาดปัจจุบันมีหลายแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการประชุมอัจฉริยะ โดยเฉพาะที่ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่ เราขอแนะนำแอปเด่นๆ เหล่านี้
1. Microsoft Teams
หนึ่งในแอปประชุมยอดนิยมที่รวมทุกฟังก์ชันไว้ในที่เดียว ทั้งการประชุม วิดีโอคอลล์ แชร์เอกสาร แชท และการทำงานร่วมกันแบบทีม พร้อมรองรับการใช้ AI สำหรับสรุปการประชุม เหมาะสำหรับองค์กรทุกขนาดที่ใช้งานระบบ Microsoft อยู่แล้ว
2. Zoom AI Companion
Zoom ไม่ได้มีดีแค่การประชุมออนไลน์ แต่ตอนนี้มีระบบ AI Companion ที่ช่วยสรุปบทสนทนา สร้างบันทึกประชุมอัตโนมัติ และช่วยเตือนงานที่ต้องติดตามต่อ เหมาะกับองค์กรที่เน้นประชุมระยะไกลหรือแบบไฮบริด
3. Notion AI
แม้จะไม่ได้เป็นแอปประชุมโดยตรง แต่ Notion AI มีความสามารถในการจัดเก็บ สรุป และจัดการเนื้อหาการประชุมได้อย่างเป็นระบบ เหมาะสำหรับทีมที่เน้นการจดบันทึกและการจัดการความรู้ภายใน
4. Fellow App
Fellow คือแอปที่สร้างขึ้นเพื่อจัดการประชุมโดยเฉพาะ มีฟีเจอร์อย่างการกำหนด Agenda ล่วงหน้า สร้างรายงานประชุม ติดตาม Action Items และการรีวิวการประชุมย้อนหลัง เหมาะกับทีมที่ต้องการการประชุมที่มีโครงสร้าง
5. Fireflies.ai
Fireflies ใช้ AI เพื่อบันทึกบทสนทนาทั้งหมดระหว่างการประชุม สร้างไฮไลต์และสรุปอัตโนมัติ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับหลายแพลตฟอร์ม เหมาะกับทีมที่ประชุมบ่อย และต้องการบันทึกข้อมูลเพื่อย้อนกลับไปใช้ในภายหลัง
แนวโน้มอนาคตของ Smart Meeting 2025
แน่นอนว่า Smart Meeting กำลังกลายเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำงานในองค์กรยุคใหม่ ปี 2025 จะมีการพัฒนาในหลายด้าน เช่น
- AI ที่เข้าใจภาษาธรรมชาติดีขึ้น (Natural Language Processing)
ช่วยให้การสรุปประชุมและวิเคราะห์ข้อมูลทำได้แม่นยำและลึกซึ้งยิ่งขึ้น - การผสานเทคโนโลยี VR และ AR
ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถ “เข้าไปอยู่ในห้องประชุม” เสมือนจริง แม้อยู่คนละซีกโลก - ระบบประชุมแบบ Hyper-personalized
เช่น การปรับเนื้อหาการประชุมให้เหมาะกับแต่ละบุคคล หรือแนะนำเนื้อหาโดยอิงจากพฤติกรรมเดิม - การใช้ Big Data วิเคราะห์พฤติกรรมการประชุม
เพื่อปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กรและประสิทธิภาพทีม - การประชุมไร้รอยต่อระหว่างอุปกรณ์
ไม่ว่าจะเริ่มจากมือถือ แล้วต่อจากคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตทีวี ได้แบบไม่มีสะดุด
ทักษะด้าน AI ที่จำเป็นสำหรับการนำ Smart Meeting มาใช้ในองค์กรมีอะไรบ้าง

หากองค์กรต้องการประยุกต์ใช้ Smart Meeting อย่างเต็มรูปแบบ ต้องเตรียมทักษะด้าน AI ดังนี้
- ความเข้าใจพื้นฐานเรื่อง AI และ Machine Learning
เพื่อเลือกใช้เครื่องมือได้อย่างถูกต้อง - ทักษะด้าน Data Analysis
เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากการประชุม เช่น การมีส่วนร่วม ความพึงพอใจ หรือ Action Plan - การใช้งาน AI Tools และ Smart Meeting App
ให้เป็นมากกว่าผู้ใช้ คือรู้วิธีปรับแต่งและใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง - ความสามารถในการประเมินและเลือกเทคโนโลยี
ว่าอะไรเหมาะกับองค์กรตนเองมากที่สุด - การสื่อสารและทำงานร่วมกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ
รู้ว่าเมื่อไหร่ควรให้ AI ทำงานแทน และเมื่อไหร่ควรใช้มนุษย์ตัดสินใจ
คอร์สเรียน AI Agent จะช่วยให้เราพัฒนา Smart Meeting ได้อย่างไร
คอร์สเรียน AI Agent ช่วยให้บุคลากรในองค์กรสามารถออกแบบและใช้งานตัวช่วยอัจฉริยะในการจัดการประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งบอทที่ช่วยเตือนการประชุมล่วงหน้า สรุปประชุมอัตโนมัติ ติดตามงานที่ได้รับมอบหมาย หรือวิเคราะห์ความสำเร็จของประชุมแต่ละครั้ง ซึ่งสามารถช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน และเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจได้อย่างมาก
สรุป Smart Meeting ดีอย่างไร ใครบ้างที่ควรใช้
Smart Meeting เป็นมากกว่าการประชุมผ่านวิดีโอ เพราะคือการยกระดับการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการตัดสินใจในองค์กร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับทุกองค์กรที่ต้องการเพิ่มความเร็วในการทำงาน ลดความผิดพลาด และสร้างวัฒนธรรมการประชุมที่ชัดเจน โดยเฉพาะองค์กรที่มีทีมงานจากหลายพื้นที่ หรือกำลังเติบโตในยุคดิจิทัล หากใครที่สนใจคอร์สเรียน AI Agent เพื่อพัฒนา Smart Meeting ไปใช้ในการประชุมองค์กร สามารถเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ Solutions Impact ของเราได้เลย
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
จะเริ่มต้นนำแนวคิด Smart Meeting มาใช้ในองค์กรได้อย่างไร
เริ่มจากการกำหนดเป้าหมายประชุม ติดตั้งเทคโนโลยีพื้นฐาน และฝึกอบรมพนักงาน
มีข้อควรระวังหรือความท้าทายอะไรบ้างในการนำ Smart Meeting มาใช้
เช่น ความไม่คุ้นชินของพนักงาน หรือปัญหาทางเทคนิคที่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแล
Smart Meeting ใช้ได้กับการประชุมแบบรีโมท (Remote) หรือไฮบริด (Hybrid) ด้วยหรือไม่
ได้แน่นอน และยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรูปแบบประชุมทั้งสองนี้
เราจะวัดผลความสำเร็จของการทำ Smart Meeting ได้อย่างไร
ดูจากความพึงพอใจของผู้เข้าร่วม ระยะเวลาที่ลดลง และผลลัพธ์ที่ได้จากประชุม
หากสนใจพัฒนา Smart Meeting ด้วย AI ในองค์กร ควรเริ่มต้นเรียนรู้จากจุดไหน
เริ่มจากคอร์สเบื้องต้นด้าน AI หรือเข้าอบรมการใช้ Smart Meeting App ต่าง ๆ ก่อน