เมื่อพูดถึงฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) หลายคนอาจนึกถึงบทบาทด้านการดูแลพนักงาน สรรหา จัดการสวัสดิการ หรือแก้ปัญหาภายในองค์กร แต่ในยุคที่เทคโนโลยี AI มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว บทบาทของ HR ยุคใหม่ จึงเปลี่ยนไปจากเดิม บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่า คุณสมบัติ HR ยุคใหม่มีลักษณะอย่างไรในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI และทำไมพวกเขาจึงเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยให้องค์กรอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล
ทำไม HR ต้องปรับตัวในยุค AI?
ปัจจุบันนี้ บทบาท HR ยุคใหม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เนื่องมาจาก
- การพัฒนาของของเทคโนโลยี
เมื่อเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ระบบ HR Tech, HRIS, Cloud Computing และ Big Data ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการบริหารทรัพยากรบุคคล HR ยุคใหม่จึงต้องเข้าใจเทคโนโลยีและต้องใช้งานเครื่องมือต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- พฤติกรรมและความคาดหวังของแรงงานยุคใหม่เปลี่ยนไป
คนทำงานรุ่น Gen Y และ Gen Z มีวิธีคิด ความคาดหวังและแนวทางการทำงานเปลี่ยนไปจากเดิม คุณสมบัติ HR ยุคใหม่จึงต้องเข้าใจความหลากหลายทางรุ่นวัย (Multi-generational Workforce) และออกแบบนโยบายที่เหมาะสมกับทุกช่วงวัย
- ความท้าทายด้านข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย
ปัจจุบัน HR ต้องจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล HR ยุคใหม่ ต้องมีแนวทางที่ชัดเจนในการจัดเก็บ ใช้งาน และปกป้องข้อมูลของพนักงานอย่างมีจริยธรรม รวมทั้งเข้าใจพื้นฐานด้าน Cybersecurity และ Ethical AI
บทบาทของ HR ยุคใหม่ในยุค AI

คุณสมบัติ HR ยุคใหม่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง HR ยุคใหม่มีบทบาทที่สำคัญดังต่อไปนี้
- เป็นผู้กำหนดกลยุทธ์ไม่ใช่แค่ผู้สนับสนุน
HR ยุคใหม่ต้องมีบทบาทเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ (Strategic Commander) ที่สามารถตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ทันต่อสถานการณ์ และเข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อองค์กรและพฤติกรรมพนักงาน โดยเฉพาะในยุค Hybrid Work ที่ต้องจัดระบบการทำงานอย่างยืดหยุ่นแต่มีประสิทธิภาพ
- วางแผนล่วงหน้าอย่างแม่นยำโดยอ้างอิงจากข้อมูล
HR ยุคใหม่ต้องคิดแบบ Data-Driven Analyst คือต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกในการคาดการณ์แนวโน้มความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการลาออก การขาดแคลนทักษะ หรือแนวทางการพัฒนาองค์กรในอนาคต
- เป็นที่พึ่งทางใจและที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิต
HR ยุคใหม่ต้องเข้าใจความต้องการทางอารมณ์ของพนักงาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนทั้งสุขภาพกายและใจ พร้อมทั้งมีระบบในการรับมือปัญหาความเครียดของพนักงาน
- ขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
HR ยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญในการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม (Innovation Culture) และการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสามารถใช้เทคโนโลยีช่วยในการ Re-skill และ Up-skill พนักงาน
- เป็นนักสื่อสารมืออาชีพยุคดิจิทัล
คุณสมบัติ HR ยุคใหม่ ต้องเข้าใจการสื่อสารแบบ Omnichannel ที่ตอบโจทย์คนทำงานทุกช่วงวัย HR ต้องรู้จักการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับคนในแต่ละช่วงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เป็นแหล่งความรู้ที่น่าเชื่อถือและตอบได้ทุกเรื่อง
HR ต้องเป็นคลังความรู้ที่อัปเดตเสมอ เช่น เทรนด์ตลาดแรงงาน กฎหมายแรงงาน เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้สามารถให้คำแนะนำและเป็นที่พึ่งของพนักงานในยามที่ต้องการคำปรึกษา
- เป็นนักสังเกตการณ์เชิงลึก
HR ต้องพัฒนา Soft Skill ด้านการสังเกตการณ์เชิงลึก เช่น สังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของพนักงาน การเปลี่ยนบรรยากาศในทีม เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
- เป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิตและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง
HR ยุคใหม่ไม่หยุดที่จะเรียนรู้เรื่องใหม่ๆอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงแนวคิดจากหลายศาสตร์มาขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างเป็นองค์รวม รวมทั้งส่งต่อวัฒนธรรมการเรียนรู้ให้กับพนักงานทุกระดับ
เครื่องมือที่ HR ยุค AI ควรรู้จักและใช้งาน
เครื่องมือ AI ที่ HR ยุคใหม่ ควรรู้จักและนำมาใช้งาน มีดังนี้
- AI OCR (Optical Character Recognition)
เป็นเทคโนโลยีการแปลงภาพเอกสารให้เป็นข้อมูลดิจิทัลแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ HR ดึงข้อมูลจากใบสมัครงาน เอกสารส่วนบุคคล หรือใบรับรองต่างๆ เข้าสู่ระบบได้ทันที ช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความรวดเร็ว
- AI Face Recognition
ระบบจดจำใบหน้าเพื่อบันทึกเวลาเข้า-ออกงาน โดยไม่ต้องใช้บัตรหรือเครื่องสแกนนิ้ว ลดการสัมผัส เพิ่มความปลอดภัย และช่วยป้องกันการสวมรอยหรือบันทึกเวลาแทนกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- AI Knowledge Management System (KMS)
จัดเก็บความรู้ภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ พร้อมระบบค้นหาด้วย AI ช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงคู่มือ นโยบาย และเอกสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รองรับการทำงานแบบ Remote และ Hybrid
- AI Chatbot สำหรับฝ่าย HR
แชตบอทอัจฉริยะที่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับสวัสดิการ วันลา นโยบายต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลดภาระงาน HR ที่ต้องตอบคำถามเดิมซ้ำๆ และมอบประสบการณ์ที่ดีแก่พนักงาน
- HireVue
ระบบสัมภาษณ์วิดีโอที่ใช้ AI วิเคราะห์ภาษากาย น้ำเสียง และเนื้อหาคำตอบ ช่วยคัดกรองผู้สมัครเบื้องต้นได้อย่างแม่นยำและยุติธรรม ลดอคติจากการสัมภาษณ์แบบเดิม
ตัวอย่างการใช้งาน AI ใน HR จริง
หลายบริษัทได้มีการนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้ในงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ตัวอย่างเช่น
- ระบบอัตโนมัติในการคัดกรองผู้สมัครงาน
บริษัท Amazon ใช้ระบบ AI Recruitment ที่สามารถประมวลผลเรซูเม่และเปรียบเทียบคุณลักษณะของผู้สมัครกับข้อมูลของพนักงานที่มีผลงานโดดเด่นในตำแหน่งเดียวกัน เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือกและลดอคติที่อาจเกิดจากมนุษย์ บริษัท SCG ได้นำ AI มาช่วยในกระบวนการสรรหา โดยวิเคราะห์คุณสมบัติของผู้สมัครจากเรซูเม่และจับคู่กับคุณสมบัติที่ประสบความสำเร็จในตำแหน่งงาน ลดภาระการคัดกรองเรซูเม่ของฝ่ายบุคคล และเพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสม
- การคาดการณ์และป้องกันการลาออกของพนักงาน
HR ยุคใหม่ของบริษัท Recruit Holdings จากญี่ปุ่น ได้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของพนักงาน เช่น จำนวนชั่วโมงการทำงาน ความสม่ำเสมอในการเข้างาน และพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมองค์กร เพื่อนำไปเทียบกับรูปแบบของพนักงานที่ลาออกในอดีต ทำให้องค์กรสามารถคาดการณ์แนวโน้มการลาออกล่วงหน้าได้
- แชตบอทอัจฉริยะสำหรับตอบคำถาม HR
บริษัท JobPro พัฒนาแชตบอทที่สามารถตอบคำถามพื้นฐานจากพนักงานและผู้สมัคร เช่น รายละเอียดตำแหน่งงาน สวัสดิการ วันหยุด หรือขั้นตอนการสมัครงาน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่ HR ตลอดเวลา
แนวโน้ม HR ยุค AI ในปี 2025

การทำงานของ HR ยุคใหม่ ในปี 2025 โดยมีแนวโน้มที่น่าสนใจดังนี้
- AI & Automation
การนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้ในการจัดการข้อมูลพนักงาน การคัดกรองเรซูเม่อัตโนมัติ การให้คำแนะนำเรื่องการพัฒนาอาชีพ ช่วยให้ทีม HR สามารถลดภาระงานซ้ำซากและหันมาโฟกัสเรื่องกลยุทธ์องค์กรได้มากขึ้น
- การสรรหาบุคลากรอัจฉริยะ
ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลผู้สมัครจากหลายแหล่ง เพื่อตัดสินใจว่าใครมีแนวโน้มประสบความสำเร็จในหน้าที่นั้นๆ รวมถึงการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอที่ใช้ AI วิเคราะห์ภาษากาย น้ำเสียง และคำตอบอย่างเป็นกลาง ลดอคติ และเพิ่มความยุติธรรมในการสรรหา
- Smart Onboarding
Smart Onboarding คือกระบวนการต้อนรับและปรับตัวของพนักงานใหม่ที่ใช้ เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับองค์กร ออกแบบประสบการณ์การเริ่มงานที่เป็นระบบเฉพาะบุคคล (personalized) วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของพนักงานใหม่และปรับเนื้อหาการเรียนรู้ให้เหมาะสม ช่วยให้พนักงานสามารถปรับตัวได้เร็วขึ้น
- Upskilling & Reskilling ด้วยการวิเคราะห์ความสามารถเชิงลึก
AI จะช่วย HR ประเมินช่องว่างทักษะได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถออกแบบแผนพัฒนาศักยภาพที่ตอบโจทย์แต่ละบุคคล รองรับการเปลี่ยนแปลงในสายงาน เช่น ความต้องการด้าน Generative AI, Data Literacy
- Employee Experience 5.0 สร้างประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล
AI จะช่วยออกแบบเส้นทางการทำงานที่ตอบโจทย์แต่ละคน ตั้งแต่วันแรกจนถึงการเติบโตในสายงาน รวมถึงวิเคราะห์ระดับความผูกพันและความพึงพอใจของพนักงาน ช่วยให้ HR ยุคใหม่ สามารถแก้ไขปัญหาเชิงรุกก่อนที่จะเกิดการลาออก
- Predictive People Analytics
การใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลพนักงานในเชิงคาดการณ์ เช่น ความเสี่ยงในการลาออก ความพร้อมในการเลื่อนตำแหน่ง คาดการณ์ผลการปฏิบัติงานในอนาคต ช่วยให้ผู้บริหารสามารถวางแผนกำลังคนได้อย่างแม่นยำและทันสถานการณ์
- AI ที่โปร่งใสและมีจริยธรรม
การนำ AI มาใช้ในงาน HR ต้องมีความโปร่งใสและเป็นธรรม มีแนวทางกำกับดูแลการใช้ AI เช่น การอธิบายวิธีการวิเคราะห์ของอัลกอริทึม (Explainable AI) การตรวจสอบอคติ (Bias Detection) และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
- การทำงานแบบ Hybrid และ Remote
HR ยุค New Normal ต้องสามารถบริหารจัดการการทำงานแบบยืดหยุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติงานของพนักงานจากทุกที่ทุกเวลา
HR ยุคใหม่ในยุค AI ต้องปรับวิธีคิดและใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด
ในปี 2025 งาน HR กำลังก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการใช้ AI และระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยยกระดับประสิทธิภาพ ตั้งแต่การสรรหา การอบรมพนักงาน ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบคาดการณ์ คุณสมบัติ HR ยุคใหม่ต้องเปลี่ยนบทบาทจากงานธุรการมาเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ พร้อมเน้นการพัฒนาทักษะ การสร้างประสบการณ์พนักงานที่เฉพาะบุคคล และให้ความสำคัญกับจริยธรรมในการใช้ AI
หากต้องการนำเอาเทคโนโลยี AI ไปปรับใช้กับงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลภายในองค์กร คุณสมบัติ HR ยุคใหม่มีอะไรบ้าง สามารถเข้ามาปรึกษาเราก่อนได้ที่ SULUTION IMPACT สถาบันการฝึกอบรมทางด้านเทคโนโลยี AI ที่ช่วยออกแบบหลักสูตร AI ที่ใช้ในงานบริหารงานบุคคล รวมทั้งสอนการใช้เครื่องมือ AI และการนำไปใช้งานจริงภายในองค์กร ต้องการรายละเอียดหลักสูตรสามารถสอบถามได้ที่สถาบันฝึกอบรม SOLUTIONS IMPACT
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ HR ยุคใหม่
บทบาทของ HR manager ยุคใหม่มีอะไรบ้าง
HR Manager ยุคใหม่ไม่ได้จำกัดแค่การจัดการงานธุรการหรือสวัสดิการพนักงาน แต่ต้องทำหน้าที่เป็น Strategic Business Partner ที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี มีบทบาทในการออกแบบประสบการณ์พนักงาน (Employee Experience) วางแผนกำลังคนเชิงกลยุทธ์ นำระบบ HR Tech มาใช้ และส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร
ผู้นํา HR ยุคใหม่ควรมีทักษะอะไรบ้าง
ผู้นำ HR ยุคใหม่ควรมีทักษะหลักดังนี้
– Data Literacy อ่าน วิเคราะห์ และใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ
– Digital HR เข้าใจและใช้เทคโนโลยี HR เช่น HRIS, AI, Automation
– People-Centric Thinking มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพและประสบการณ์ของพนักงาน
– Change Management นำพาองค์กรและบุคลากรผ่านการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นใจ
– Business Acumen เข้าใจบริบทธุรกิจ และเชื่อมโยงกลยุทธ์ HR กับเป้าหมายองค์กร
HR ยุคใหม่ต้องการคนแบบไหน
HR ยุคใหม่มองหาคนที่มีทั้งทักษะทางเทคนิค (Hard Skills) และทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ (Soft Skills) โดยเฉพาะคนที่เปิดรับการเรียนรู้และพร้อมปรับตัว ใช้เครื่องมือต่างๆได้ มีทักษะการสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม มีมุมมองแบบมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-Centric)
แนวโน้มของ HR ในอนาคตเป็นอย่างไร
HR ในอนาคตจะขับเคลื่อนด้วย AI, Automation และ Predictive Analytics มากขึ้น โดยมุ่งเน้นเรื่องต่อไปนี้
– การสร้างประสบการณ์พนักงานเฉพาะบุคคล (Personalized Employee Experience)
– การใช้ข้อมูลคาดการณ์พฤติกรรมและความต้องการของบุคลากร
– การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์งานแห่งอนาคต
– การออกแบบองค์กรให้ยืดหยุ่น รองรับ Hybrid Work และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน
– การใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรมและโปร่งใส