เมื่อพูดถึงฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) หลายคนอาจนึกถึงบทบาทด้านการดูแลพนักงาน สรรหา จัดการสวัสดิการ หรือแก้ปัญหาภายในองค์กร แต่ในยุคที่เทคโนโลยี AI มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว บทบาทของ HR ยุคใหม่ จึงเปลี่ยนไปจากเดิม บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่า คุณสมบัติ HR ยุคใหม่มีลักษณะอย่างไรในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI และทำไมพวกเขาจึงเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยให้องค์กรอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

ทำไม HR ต้องปรับตัวในยุค AI?

ปัจจุบันนี้ บทบาท HR ยุคใหม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เนื่องมาจาก

  1. การพัฒนาของของเทคโนโลยี

เมื่อเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ระบบ HR Tech, HRIS, Cloud Computing และ Big Data ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการบริหารทรัพยากรบุคคล HR ยุคใหม่จึงต้องเข้าใจเทคโนโลยีและต้องใช้งานเครื่องมือต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. พฤติกรรมและความคาดหวังของแรงงานยุคใหม่เปลี่ยนไป

คนทำงานรุ่น Gen Y และ Gen Z มีวิธีคิด ความคาดหวังและแนวทางการทำงานเปลี่ยนไปจากเดิม คุณสมบัติ HR ยุคใหม่จึงต้องเข้าใจความหลากหลายทางรุ่นวัย (Multi-generational Workforce) และออกแบบนโยบายที่เหมาะสมกับทุกช่วงวัย

  1.   ความท้าทายด้านข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย

ปัจจุบัน HR ต้องจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล HR ยุคใหม่ ต้องมีแนวทางที่ชัดเจนในการจัดเก็บ ใช้งาน และปกป้องข้อมูลของพนักงานอย่างมีจริยธรรม รวมทั้งเข้าใจพื้นฐานด้าน Cybersecurity และ Ethical AI 

บทบาทของ HR ยุคใหม่ในยุค AI

คุณสมบัติ HR ยุคใหม่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง HR ยุคใหม่มีบทบาทที่สำคัญดังต่อไปนี้

  1. เป็นผู้กำหนดกลยุทธ์ไม่ใช่แค่ผู้สนับสนุน

HR ยุคใหม่ต้องมีบทบาทเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ (Strategic Commander) ที่สามารถตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ทันต่อสถานการณ์ และเข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อองค์กรและพฤติกรรมพนักงาน โดยเฉพาะในยุค Hybrid Work ที่ต้องจัดระบบการทำงานอย่างยืดหยุ่นแต่มีประสิทธิภาพ

  1. วางแผนล่วงหน้าอย่างแม่นยำโดยอ้างอิงจากข้อมูล

HR ยุคใหม่ต้องคิดแบบ Data-Driven Analyst คือต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกในการคาดการณ์แนวโน้มความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการลาออก การขาดแคลนทักษะ หรือแนวทางการพัฒนาองค์กรในอนาคต 

  1.  เป็นที่พึ่งทางใจและที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิต

HR ยุคใหม่ต้องเข้าใจความต้องการทางอารมณ์ของพนักงาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนทั้งสุขภาพกายและใจ พร้อมทั้งมีระบบในการรับมือปัญหาความเครียดของพนักงาน

  1. ขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

HR ยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญในการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม (Innovation Culture) และการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสามารถใช้เทคโนโลยีช่วยในการ Re-skill และ Up-skill พนักงาน

  1.  เป็นนักสื่อสารมืออาชีพยุคดิจิทัล

คุณสมบัติ HR ยุคใหม่ ต้องเข้าใจการสื่อสารแบบ Omnichannel ที่ตอบโจทย์คนทำงานทุกช่วงวัย HR ต้องรู้จักการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับคนในแต่ละช่วงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. เป็นแหล่งความรู้ที่น่าเชื่อถือและตอบได้ทุกเรื่อง

HR ต้องเป็นคลังความรู้ที่อัปเดตเสมอ เช่น เทรนด์ตลาดแรงงาน กฎหมายแรงงาน เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้สามารถให้คำแนะนำและเป็นที่พึ่งของพนักงานในยามที่ต้องการคำปรึกษา

  1. เป็นนักสังเกตการณ์เชิงลึก

HR ต้องพัฒนา Soft Skill ด้านการสังเกตการณ์เชิงลึก เช่น สังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของพนักงาน การเปลี่ยนบรรยากาศในทีม เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

  1. เป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิตและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง

HR ยุคใหม่ไม่หยุดที่จะเรียนรู้เรื่องใหม่ๆอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงแนวคิดจากหลายศาสตร์มาขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างเป็นองค์รวม รวมทั้งส่งต่อวัฒนธรรมการเรียนรู้ให้กับพนักงานทุกระดับ

เครื่องมือที่ HR ยุค AI ควรรู้จักและใช้งาน

เครื่องมือ AI ที่ HR ยุคใหม่ ควรรู้จักและนำมาใช้งาน มีดังนี้

  1. AI OCR (Optical Character Recognition)

เป็นเทคโนโลยีการแปลงภาพเอกสารให้เป็นข้อมูลดิจิทัลแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ HR ดึงข้อมูลจากใบสมัครงาน เอกสารส่วนบุคคล หรือใบรับรองต่างๆ เข้าสู่ระบบได้ทันที ช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความรวดเร็ว

  1. AI Face Recognition

ระบบจดจำใบหน้าเพื่อบันทึกเวลาเข้า-ออกงาน โดยไม่ต้องใช้บัตรหรือเครื่องสแกนนิ้ว ลดการสัมผัส เพิ่มความปลอดภัย และช่วยป้องกันการสวมรอยหรือบันทึกเวลาแทนกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. AI Knowledge Management System (KMS)

จัดเก็บความรู้ภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ พร้อมระบบค้นหาด้วย AI ช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงคู่มือ นโยบาย และเอกสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รองรับการทำงานแบบ Remote และ Hybrid

  1. AI Chatbot สำหรับฝ่าย HR

แชตบอทอัจฉริยะที่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับสวัสดิการ วันลา นโยบายต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลดภาระงาน HR ที่ต้องตอบคำถามเดิมซ้ำๆ และมอบประสบการณ์ที่ดีแก่พนักงาน

  1. HireVue

ระบบสัมภาษณ์วิดีโอที่ใช้ AI วิเคราะห์ภาษากาย น้ำเสียง และเนื้อหาคำตอบ ช่วยคัดกรองผู้สมัครเบื้องต้นได้อย่างแม่นยำและยุติธรรม ลดอคติจากการสัมภาษณ์แบบเดิม

ตัวอย่างการใช้งาน AI ใน HR จริง

หลายบริษัทได้มีการนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้ในงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ตัวอย่างเช่น 

  1. ระบบอัตโนมัติในการคัดกรองผู้สมัครงาน

บริษัท Amazon ใช้ระบบ AI Recruitment ที่สามารถประมวลผลเรซูเม่และเปรียบเทียบคุณลักษณะของผู้สมัครกับข้อมูลของพนักงานที่มีผลงานโดดเด่นในตำแหน่งเดียวกัน เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือกและลดอคติที่อาจเกิดจากมนุษย์ บริษัท SCG ได้นำ AI มาช่วยในกระบวนการสรรหา โดยวิเคราะห์คุณสมบัติของผู้สมัครจากเรซูเม่และจับคู่กับคุณสมบัติที่ประสบความสำเร็จในตำแหน่งงาน ลดภาระการคัดกรองเรซูเม่ของฝ่ายบุคคล และเพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสม

  1. การคาดการณ์และป้องกันการลาออกของพนักงาน

HR ยุคใหม่ของบริษัท Recruit Holdings จากญี่ปุ่น ได้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของพนักงาน เช่น จำนวนชั่วโมงการทำงาน ความสม่ำเสมอในการเข้างาน และพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมองค์กร เพื่อนำไปเทียบกับรูปแบบของพนักงานที่ลาออกในอดีต ทำให้องค์กรสามารถคาดการณ์แนวโน้มการลาออกล่วงหน้าได้

  1. แชตบอทอัจฉริยะสำหรับตอบคำถาม HR

บริษัท JobPro พัฒนาแชตบอทที่สามารถตอบคำถามพื้นฐานจากพนักงานและผู้สมัคร เช่น รายละเอียดตำแหน่งงาน สวัสดิการ วันหยุด หรือขั้นตอนการสมัครงาน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่ HR ตลอดเวลา 

แนวโน้ม HR ยุค AI ในปี 2025

การทำงานของ HR ยุคใหม่ ในปี 2025 โดยมีแนวโน้มที่น่าสนใจดังนี้

  1. AI & Automation 

การนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้ในการจัดการข้อมูลพนักงาน การคัดกรองเรซูเม่อัตโนมัติ การให้คำแนะนำเรื่องการพัฒนาอาชีพ ช่วยให้ทีม HR สามารถลดภาระงานซ้ำซากและหันมาโฟกัสเรื่องกลยุทธ์องค์กรได้มากขึ้น

  1. การสรรหาบุคลากรอัจฉริยะ

ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลผู้สมัครจากหลายแหล่ง เพื่อตัดสินใจว่าใครมีแนวโน้มประสบความสำเร็จในหน้าที่นั้นๆ รวมถึงการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอที่ใช้ AI วิเคราะห์ภาษากาย น้ำเสียง และคำตอบอย่างเป็นกลาง ลดอคติ และเพิ่มความยุติธรรมในการสรรหา

  1. Smart Onboarding

Smart Onboarding คือกระบวนการต้อนรับและปรับตัวของพนักงานใหม่ที่ใช้ เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับองค์กร ออกแบบประสบการณ์การเริ่มงานที่เป็นระบบเฉพาะบุคคล (personalized) วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของพนักงานใหม่และปรับเนื้อหาการเรียนรู้ให้เหมาะสม ช่วยให้พนักงานสามารถปรับตัวได้เร็วขึ้น

  1. Upskilling & Reskilling ด้วยการวิเคราะห์ความสามารถเชิงลึก

AI จะช่วย HR ประเมินช่องว่างทักษะได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถออกแบบแผนพัฒนาศักยภาพที่ตอบโจทย์แต่ละบุคคล รองรับการเปลี่ยนแปลงในสายงาน เช่น ความต้องการด้าน Generative AI, Data Literacy

  1. Employee Experience 5.0 สร้างประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล

AI จะช่วยออกแบบเส้นทางการทำงานที่ตอบโจทย์แต่ละคน ตั้งแต่วันแรกจนถึงการเติบโตในสายงาน รวมถึงวิเคราะห์ระดับความผูกพันและความพึงพอใจของพนักงาน ช่วยให้ HR ยุคใหม่ สามารถแก้ไขปัญหาเชิงรุกก่อนที่จะเกิดการลาออก

  1. Predictive People Analytics

การใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลพนักงานในเชิงคาดการณ์ เช่น ความเสี่ยงในการลาออก ความพร้อมในการเลื่อนตำแหน่ง คาดการณ์ผลการปฏิบัติงานในอนาคต ช่วยให้ผู้บริหารสามารถวางแผนกำลังคนได้อย่างแม่นยำและทันสถานการณ์

  1. AI ที่โปร่งใสและมีจริยธรรม

การนำ AI มาใช้ในงาน HR ต้องมีความโปร่งใสและเป็นธรรม มีแนวทางกำกับดูแลการใช้ AI เช่น การอธิบายวิธีการวิเคราะห์ของอัลกอริทึม (Explainable AI) การตรวจสอบอคติ (Bias Detection) และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน

  1. การทำงานแบบ Hybrid และ Remote 

HR ยุค New Normal ต้องสามารถบริหารจัดการการทำงานแบบยืดหยุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติงานของพนักงานจากทุกที่ทุกเวลา

HR ยุคใหม่ในยุค AI ต้องปรับวิธีคิดและใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด

ในปี 2025 งาน HR กำลังก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการใช้ AI และระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยยกระดับประสิทธิภาพ ตั้งแต่การสรรหา การอบรมพนักงาน ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบคาดการณ์ คุณสมบัติ HR ยุคใหม่ต้องเปลี่ยนบทบาทจากงานธุรการมาเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ พร้อมเน้นการพัฒนาทักษะ การสร้างประสบการณ์พนักงานที่เฉพาะบุคคล และให้ความสำคัญกับจริยธรรมในการใช้ AI

หากต้องการนำเอาเทคโนโลยี AI ไปปรับใช้กับงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลภายในองค์กร คุณสมบัติ HR ยุคใหม่มีอะไรบ้าง สามารถเข้ามาปรึกษาเราก่อนได้ที่ SULUTION IMPACT สถาบันการฝึกอบรมทางด้านเทคโนโลยี AI ที่ช่วยออกแบบหลักสูตร AI ที่ใช้ในงานบริหารงานบุคคล รวมทั้งสอนการใช้เครื่องมือ AI และการนำไปใช้งานจริงภายในองค์กร ต้องการรายละเอียดหลักสูตรสามารถสอบถามได้ที่สถาบันฝึกอบรม SOLUTIONS IMPACT

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ HR ยุคใหม่

บทบาทของ HR manager ยุคใหม่มีอะไรบ้าง

HR Manager ยุคใหม่ไม่ได้จำกัดแค่การจัดการงานธุรการหรือสวัสดิการพนักงาน แต่ต้องทำหน้าที่เป็น Strategic Business Partner ที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี มีบทบาทในการออกแบบประสบการณ์พนักงาน (Employee Experience) วางแผนกำลังคนเชิงกลยุทธ์ นำระบบ HR Tech มาใช้ และส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร

ผู้นํา HR ยุคใหม่ควรมีทักษะอะไรบ้าง

ผู้นำ HR ยุคใหม่ควรมีทักษะหลักดังนี้
– Data Literacy อ่าน วิเคราะห์ และใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ
– Digital HR เข้าใจและใช้เทคโนโลยี HR เช่น HRIS, AI, Automation
– People-Centric Thinking มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพและประสบการณ์ของพนักงาน
– Change Management นำพาองค์กรและบุคลากรผ่านการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นใจ
– Business Acumen เข้าใจบริบทธุรกิจ และเชื่อมโยงกลยุทธ์ HR กับเป้าหมายองค์กร

HR ยุคใหม่ต้องการคนแบบไหน

HR ยุคใหม่มองหาคนที่มีทั้งทักษะทางเทคนิค (Hard Skills) และทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ (Soft Skills) โดยเฉพาะคนที่เปิดรับการเรียนรู้และพร้อมปรับตัว ใช้เครื่องมือต่างๆได้ มีทักษะการสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม มีมุมมองแบบมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-Centric)

แนวโน้มของ HR ในอนาคตเป็นอย่างไร

HR ในอนาคตจะขับเคลื่อนด้วย AI, Automation และ Predictive Analytics มากขึ้น โดยมุ่งเน้นเรื่องต่อไปนี้
– การสร้างประสบการณ์พนักงานเฉพาะบุคคล (Personalized Employee Experience)
– การใช้ข้อมูลคาดการณ์พฤติกรรมและความต้องการของบุคลากร
– การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์งานแห่งอนาคต
– การออกแบบองค์กรให้ยืดหยุ่น รองรับ Hybrid Work และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน
– การใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรมและโปร่งใส