ในยุคดิจิทัลที่ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไปจากเดิม มีทางเลือกมากขึ้นและคาดหวังประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจง ระบบจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) จึงต้องมีการพัฒนาให้ทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบัน CRM ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือบันทึกข้อมูลลูกค้า แต่ได้พัฒนาไปอีกขั้นด้วยการผสานความสามารถของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) CRM ยุคใหม่จึงกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างยั่งยืน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า CRM คืออะไร ทำงานอย่างไร และช่วยธุรกิจได้อย่างไรบ้าง

CRM คืออะไร?

CRM ย่อมาจาก Customer Relationship Management หมายถึง การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าในทุกจุดที่ลูกค้าสัมผัสกับแบรนด์ ตั้งแต่การนำเสนอสินค้าและบริการ ไปจนถึงการทำให้ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำและมีความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ระบบ CRM ช่วยจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้า และวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ CRM ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าและกระบวนการขาย เช่น การติดตามดีล การจัดการทีมขาย และการสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายและรักษาฐานลูกค้าในระยะยาว

ประโยชน์ของ CRM ที่ใช้ AI และ Data Intelligence

ประโยชน์ของการนำ AI และ Data Intelligence เข้ามาผสานกับระบบ CRM มี ดังนี้

  1. การสร้างความสัมพันธ์ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นส่วนตัว

ระบบ CRM สามารถประมวลผลข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถนำเสนอแคมเปญที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด ลูกค้าจึงได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

  1. การวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมลูกค้าอย่างแม่นยำ

การวิเคราะห์ลูกค้าด้วย AI ทำให้ระบบ Predictive CRM สามารถระบุรูปแบบพฤติกรรมและแนวโน้มการซื้อของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้วางแผนการตลาดได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น

  1. การให้บริการลูกค้าแบบอัตโนมัติและรวดเร็ว

แชตบอทและผู้ช่วยเสมือนสามารถตอบคำถาม ให้ข้อมูลสินค้า หรือแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดภาระของพนักงานและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า สามารถวิเคราะห์ความรู้สึกของลูกค้า (Sentiment Analysis) จากข้อความหรือเสียง ทำให้ธุรกิจสามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที

  1. การวิเคราะห์ความรู้สึกและตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าเชิงรุก

AI ใช้เทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และการวิเคราะห์ความรู้สึก (Sentiment Analysis) เพื่อให้เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับปัญหาและตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด

  1. การเพิ่มยอดขายและรายได้

ช่วยวิเคราะห์ความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละคน แล้วนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงเวลาและตรงความต้องการได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายและรายได้ 

  1.  การลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

การนำเทคโนโลยี AI มาเชื่อมโยงกับระบบ CRM ช่วยให้ธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งในด้านการจัดการข้อมูลและงานที่ต้องทำซ้ำๆ เนื่องจาก AI สามารถทำงานอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้พนักงานมีเวลาไปมุ่งเน้นกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือมีความซับซ้อนมากกว่าเดิม

CRM กับ Data: เชื่อมโยงยังไง?

ระบบ CRM และข้อมูล (Data) มีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด เพราะข้อมูลลูกค้าเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ระบบ CRM สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีลักษณะการเชื่อมโยงสำคัญดังนี้

  1. การรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ

ระบบ CRM เก็บข้อมูลทั้งหมดของลูกค้าจากแหล่งต่างๆ เข้ามาไว้ในฐานข้อมูลกลางที่มีโครงสร้างเดียวกัน ช่วยให้ข้อมูลมีความถูกต้องและพร้อมนำไปใช้งาน

  1.  การบูรณาการข้อมูลจากหลายช่องทาง

ระบบ CRM สามารถเชื่อมโยงและรวบรวมข้อมูลของลูกค้าจากหลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย การติดต่อผ่านโทรศัพท์ไว้ในที่เดียว ทำให้ทุกฝ่ายในองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าแบบครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน

  1. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเข้าใจลูกค้าและพฤติกรรม

เมื่อข้อมูลถูกรวบรวมใน CRM แล้ว ระบบจะใช้ข้อมูลเหล่านี้วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เช่น การติดตามเส้นทางการซื้อ (customer journey) การจัดกลุ่มลูกค้า การคาดการณ์ความต้องการ เพื่อช่วยให้ทีมขายและการตลาดวางแผนการตลาดและดำเนินงานได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น

  1. การแชร์ข้อมูลและทำงานร่วมกันในองค์กร

ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บใน CRM สามารถนำมาใช้ร่วมกันระหว่างทีมขาย ทีมการตลาด ทีมบริการลูกค้า และฝ่ายอื่นๆ ทำให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีเป้าหมายที่ชัดเจน และลดความซ้ำซ้อน

  1. การสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล

สามารถนำเอาข้อมูลใน CRM ไปวิเคราะห์เพื่อให้ธุรกิจสื่อสารและจัดส่งข้อเสนอที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย เป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความภักดีต่อแบรนด์

ตัวอย่างระบบ CRM ที่ใช้ AI / Data Analytics

ตัวอย่างระบบ CRM ที่มีการใช้ AI และ Data Analytics ได้แก่

  1. Salesforce (Einstein AI)

Salesforce พัฒนา Einstein AI เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งแนะนำแนวทางที่เหมาะสมให้กับทีมขายและการตลาด ดึงข้อมูลเชิงลึกจากระบบ CRM มาใช้ในทุกขั้นตอนของการทำงาน ช่วยให้องค์กรลดภาระงานซ้ำซ้อน เพิ่มความแม่นยำ และลดต้นทุนในการบริหารจัดการข้อมูล

  1. HubSpot (ChatSpot และ AI Analytics)

HubSpot CRM มีฟีเจอร์ AI เช่น ChatSpot ที่สามารถดึงข้อมูล วิเคราะห์ และสร้างรายงานจากข้อมูล CRM ได้ทันที มีระบบ Predictive Lead Scoring ที่ใช้ AI วิเคราะห์โอกาสปิดการขายของลูกค้าแต่ละราย และ AI Analytics ที่ช่วยคาดการณ์ยอดขาย วิเคราะห์ความรู้สึกของลูกค้า และแนะนำกลยุทธ์การตลาด

  1.  Zoho CRM (Zia AI)

Zoho CRM มี Zia AI ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า วิเคราะห์แนวโน้มยอดขาย วิเคราะห์ความรู้สึกจากข้อความ ตอบคำถามด้วยภาษาธรรมชาติ สร้างรายงานอัตโนมัติ และแนะนำการดำเนินงาน

  1. Expedia Group

Expedia Group นำเอา AI และ Machine Learning มาใช้ในบริหารจัดการลูกค้า เช่น รวบรวมข้อมูลการค้นหา การจองที่พัก และรีวิวต่างๆ ช่วยคาดการณ์แนวโน้มและความต้องการของลูกค้า ทำให้สามารถปรับแต่งโปรโมชันและข้อเสนอเฉพาะบุคคลได้อย่างแม่นยำ และมี AI Agent ช่วยให้ข้อมูลและตอบคำถามแบบอัตโนมัติ

  1. Pipedrive

Pipedrive คือระบบ CRM ที่ออกแบบมาสำหรับทีมขาย มีเครื่องมือที่หลากหลายเช่น Prospector ใช้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อค้นหา lead ที่มีคุณภาพ สามารถแสดงข้อมูลยอดขายแบบทันที พร้อมวิเคราะห์ผลการทำงานของพนักงานขายแต่ละคน ทำให้ทีมสามารถติดตาม pipeline ได้ชัดเจน

จะเริ่มต้นใช้ CRM + AI ได้อย่างไร?

การเริ่มต้นใช้งานระบบ CRM AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยสามารถเริ่มต้นได้ตามขั้นตอนดังนี้

  1. กำหนดเป้าหมายและปัญหาที่ต้องการแก้ไข

ระบุเป้าหมายของธุรกิจให้ชัดเจน เช่น ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการขาย ลดเวลางานซ้ำซ้อน หรือยกระดับประสบการณ์ลูกค้า วิเคราะห์ปัญหาหรือจุดอ่อนของ CRM ที่ใช้อยู่เดิม ว่าส่วนใดที่ AI สามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาหรือเพิ่มศักยภาพได้

  1.  ประเมินความพร้อมของระบบ CRM ปัจจุบัน

สำรวจว่าระบบ CRM ที่ใช้งานอยู่เดิมรองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องมือ AI ได้หรือไม่ รวมถึงประเมินศักยภาพของระบบ CRM และความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบวิเคราะห์หรือ AI ที่องค์กรใช้งานอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าการนำเอาเทคโนโลยี AI ใช้งานร่วมกับระบบ CRM สามารถใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพ

  1.  เลือกเครื่องมือ CRM ที่เหมาะสม

ศึกษาและเปรียบเทียบ AI CRM Tool ที่เหมาะสมและตอบโจทย์เป้าหมายขององค์กร รวมทั้งตรวจสอบความเข้ากันของระบบ CRM เดิม และเลือกใช้เครื่องมือที่สามารถอัปเดตและต่อยอดได้ในอนาคต

  1.  วางแผนและเตรียมกระบวนการนำร่อง

สร้างแผนดำเนินงานที่ชัดเจน กำหนดไทม์ไลน์ ทรัพยากร และผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอน เริ่มต้นด้วยโครงการนำร่อง (Pilot) เพื่อทดสอบการใช้งานจริงในวงจำกัดก่อน หากผลของโครงการเป็นที่น่าพอใจ ค่อยขยายการใช้งานเพิ่มมากขึ้น

  1.  ฝึกอบรมและเตรียมทีมงาน

เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเพื่อให้พนักงานสามารถดึงเอาศักยภาพของเครื่องมือออกมาใช้ในการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยการจัดฝึกอบรมให้ทีมงานเข้าใจวิธีใช้งานฟีเจอร์ AI ใน CRM อย่างถูกต้อง

  1.  ติดตามผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ติดตามผลการนำ AI มาใช้ในระบบ CRM อย่างต่อเนื่องว่าการดำเนินงานที่ผ่านมานั้นตอบโจทย์เป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ พร้อมทั้งเปิดรับข้อเสนอแนะจากผู้ใช้งานจริงเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการมากยิ่งขึ้น

CRM ยุค AI คือระบบจัดการลูกค้าที่มีความฉลาดและสามารถทำงานแบบอัตโนมัติมากขึ้น โดยการนำเอาเทคโนโลยี AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก ตอบสนองลูกค้าอย่างรวดเร็วและเป็นส่วนตัว ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและเติบโตได้อย่างมั่นคงในยุคดิจิทัล หากต้องการเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ รวมทั้งทักษะการใช้งานเครื่องมือ AI CRM Tool ที่ SOLUTIONS IMPACT เรามีวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้งานเครื่องมือ AI สามารถออกแบบหลักสูตรได้เหมาะสมกับผู้เรียนและประเภทของธุรกิจ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ SOLUTIONS IMPACT 

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ CRM

CRM ยุค AI ต่างจาก CRM แบบเดิมอย่างไร?

CRM ยุค AI มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจำนวนมากอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ใช้ Machine Learning และ AI เพื่อคาดการณ์พฤติกรรมลูกค้า เช่น การจัดลำดับลีด (Lead Scoring), การวิเคราะห์ความรู้สึก (Sentiment Analysis) และการให้บริการลูกค้าอัตโนมัติผ่าน Chatbots ทำให้การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ต่างจาก CRM แบบเดิมที่เน้นการเก็บข้อมูลและติดตามลูกค้าเป็นหลักโดยไม่มีการวิเคราะห์เชิงลึกหรือการทำงานอัตโนมัติ

จำเป็นไหมต้องมีข้อมูลเยอะถึงจะใช้ CRM + AI ได้?

ไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลจำนวนมากแต่ข้อมูลที่มีต้องมีคุณภาพและครบถ้วนพอสมควร เพื่อให้ AI สามารถวิเคราะห์และเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเริ่มจากข้อมูลที่มีและขยายฐานข้อมูลไปเรื่อยๆ พร้อมกับการปรับปรุงคุณภาพข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ AI สามารถสร้างผลลัพธ์ที่แม่นยำและเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจได้

ธุรกิจเล็กใช้ CRM + AI ได้ไหม?

ธุรกิจเล็กก็สามารถใช้ CRM ที่มี AI ได้ เพราะในปัจจุบันมีระบบ CRM ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท รวมถึงฟีเจอร์ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลได้โดยไม่ต้องลงทุนสูงมาก นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจเล็กสามารถบริหารลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้ในตลาด

ข้อมูลใน CRM ปลอดภัยแค่ไหน?

ระบบ CRM มักมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตามบทบาทผู้ใช้ การตรวจสอบสิทธิ์สองขั้นตอน การจำกัดการเข้าถึงตาม IP การบันทึกกิจกรรมผู้ใช้ (Audit Trail) และการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น PDPA และ GDPR อย่างเคร่งครัด

ตัวอย่างที่ใช้ AI ใน CRM มีอะไรบ้าง?

– การวิเคราะห์ Lead Scoring เพื่อจัดลำดับความสำคัญของลูกค้า
– Chatbots และ Virtual Assistants สำหรับตอบคำถามลูกค้าอัตโนมัติ
– การวิเคราะห์ความรู้สึก (Sentiment Analysis) จากข้อความลูกค้า

CRM Marketing มีอะไรบ้าง?

CRM Marketing คือการใช้ระบบ CRM เพื่อวางแผนและดำเนินกิจกรรมการตลาดโดยใช้ข้อมูลลูกค้าใน CRM มาช่วยในการแบ่งกลุ่มลูกค้า การส่งข้อความหรือโปรโมชันแบบเฉพาะบุคคล (Personalization), การจัดการแคมเปญการตลาด การวิเคราะห์ผลลัพธ์ของแคมเปญ และการทำ CRM Marketing Automation เช่น การส่งอีเมลอัตโนมัติหรือการแจ้งเตือนผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลตอบแทนจากการลงทุนทางการตลาด