ในยุคที่ข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรล้ำค่า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือองค์กรภาครัฐ ต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับ Big Data หรือข้อมูลขนาดใหญ่กันมากขึ้น ในปี 2025 ที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถูกนำมาใช้ร่วมกับ Big Data ส่งผลให้การจัดเก็บ วิเคราะห์ และนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์กลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาองค์กรและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า Big Data คืออะไร ประโยชน์ของBig Data มีอะไรบ้าง รวมทั้งตัวอย่างการนำไปใช้งานในภาคธุรกิจ

Big Data คืออะไร? รู้ลึกการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในยุคดิจิทัล

Big Data คือชุดข้อมูลที่มีปริมาณมาก เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีความหลากหลายสูง มีที่มาจากหลายแหล่งข้อมูล เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน การทำธุรกรรมออนไลน์ เป็นต้น ไม่สามารถจัดการหรือวิเคราะห์ได้ด้วยเครื่องมือหรือเทคนิคแบบดั้งเดิม Big Data สามารถประมวลผลได้แบบเรียลไทม์ จึงดึงข้อมูลมาใช้งานทันที ซึ่งต่างจากการใช้ “ข้อมูลทั่วไป” ที่มีโครงสร้างตายตัวและมีการเปลี่ยนแปลงน้อย Big Data ช่วยให้ธุรกิจและองค์กรสามารถตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ 

ความสำคัญของ Big Data ในยุคธุรกิจดิจิทัล

Big Data มีความสำคัญต่อธุรกิจในยุคดิจิทัล ดังนี้

  1. ยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน 

Big Data ช่วยให้องค์กรสามารถค้นหาข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนในกระบวนการทำงาน แล้ววิเคราะห์เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น เช่น การลดต้นทุน เพิ่มความรวดเร็ว เป็นต้น

  1. ขับเคลื่อนการตัดสินใจด้วยข้อมูล

Big Data ช่วยสนับสนุนการวางกลยุทธ์และการตัดสินใจในหลายด้าน เช่น การวิเคราะห์แนวโน้มตลาด การตั้งราคาที่เหมาะสม ช่วยให้ผู้บริหารเห็นภาพรวมขององค์กรได้แบบเรียลไทม์และตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

  1.  ค้นหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจ

การนำเอาข้อมูลจากหลายแหล่งมาวิเคราะห์ ช่วยให้องค์กรมองเห็นโอกาสทางการตลาดที่อาจซ่อนอยู่ เช่น การพัฒนาสินค้าใหม่ การหากลุ่มเป้าหมายใหม่ หรือการเจาะตลาดต่างประเทศ

  1. ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า 

Big Data ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานของลูกค้าแบบ Personalization เช่น แนะนำสินค้าได้ตรงกับความต้องการ ตอบสนองปัญหาได้รวดเร็ว หรือสร้างแคมเปญการตลาดเฉพาะบุคคล 

ตัวอย่างการใช้งาน Big Data ในภาคธุรกิจ

Big Data ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในภาคธุรกิจหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น

การตรวจจับการฉ้อโกง (Fraud Detection)

AI และ Big Data ถูกนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการทำธุรกรรมของลูกค้าแบบเรียลไทม์ เช่น Mastercard พัฒนาโมเดล AI ชื่อ “Decision Intelligence Pro” ที่นำเอาข้อมูลการทำธุรกรรมมาประเมินความเสี่ยง ช่วยให้ธนาคารสามารถตรวจสอบการฉ้อโกงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ American Express ใช้ AI วิเคราะห์รูปแบบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติและส่งสัญญาณเตือนทันทีที่พบความเสี่ยง

การแนะนำสินค้าด้วย AI (Recommendation System)

AI และ Big Data ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าและนำเสนอสินค้าที่เหมาะสม เช่น Lazada และ Shopee ใช้ระบบ AI สำหรับจัดวางสินค้าในแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน

การวิเคราะห์เวชระเบียนเพื่อดูแนวโน้มผู้ป่วย

Big Data ถูกนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเวชระเบียนของผู้ป่วยเพื่อคาดการณ์แนวโน้มสุขภาพ ติดตามการรักษา และช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การติดตามสุขภาพแบบเรียลไทม์ การคาดการณ์แนวโน้มการเกิดโรคหรือความเสี่ยงของผู้ป่วยรายบุคคล เป็นต้น

การวางแผนเส้นทางและจัดการคลังสินค้า

Big Data ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนเส้นทางการขนส่งและการจัดการคลังสินค้า เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ ช่วยกำหนดเส้นทางที่เร็วที่สุดและประหยัดน้ำมันที่สุดสำหรับการขนส่งสินค้า Pepsi ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง เพื่อนำมาวิเคราะห์เชิงลึกว่าสินค้าประเภทใด ขนาดใด และบรรจุภัณฑ์แบบไหนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในแต่ละพื้นที่ ทำให้สามารถคาดการณ์แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคได้อย่างแม่นยำ 

เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้กับ Big Data

เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้กับงาน Big Data และ Big Data Analytics มีดังต่อไปนี้

  1. Cloud Storage

Cloud Storage หรือระบบจัดเก็บข้อมูลบน Cloud ถูกนำมาใช้ในการจัดการ Big Data ช่วยให้องค์กรสามารถบันทึกข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา รองรับการขยายตัวของข้อมูล และมีระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงจากการสูญหายของข้อมูล

  1. AI และ Machine Learning

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning คือเทคโนโลยีที่สามารถเรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี Big Data เป็นวัตถุดิบสำคัญในการฝึกสอนและสร้างโมเดล ช่วยให้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ คาดการณ์แนวโน้มทางธุรกิจ รวมทั้งปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลได้

  1. Document & Data Management (ECM/DMS)

ระบบ Enterprise Content Management (ECM) และ Document Management System (DMS) ช่วยให้การบริหารจัดการข้อมูลทำได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับองค์กรที่ต้องจัดการข้อมูลจำนวนมาก สามารถจัดหมวดหมู่และติดแท็กไฟล์อย่างอัตโนมัติ มีระบบค้นหาอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี OCR

  1. Data Lakes และ Data Warehouses

เทคโนโลยี Data Lake และ Data Warehouse เป็นเทคโนโลยีด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Big Data Analytics ในการเก็บข้อมูลจำนวนมากเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ขั้นสูง โดย Data Lake รองรับข้อมูลทุกประเภททั้งที่มีและไม่มีโครงสร้าง เหมาะสำหรับเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้แล้วนำมาวิเคราะห์ในภายหลัง ส่วน Data Warehouse มุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีโครงสร้างชัดเจน 

อาชีพและทักษะที่เกี่ยวข้องกับ Big Data มีอะไรบ้าง

อาชีพและทักษะที่เกี่ยวข้องกับ Big Data มีดังนี้

อาชีพเกี่ยวข้องกับ Big Data

  • Data Analyst ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสรุปแนวโน้ม พฤติกรรมผู้บริโภค และผลการดำเนินธุรกิจ 
  • Data Scientist ทำหน้าที่สร้าง Machine Learning Model วิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก ทำ Feature Engineering แปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ใช้งานได้
  • Data Engineer ทำหน้าที่พัฒนาและดูแลโครงสร้างพื้นฐานของข้อมูล (Data Pipeline) และจัดการข้อมูลขนาดใหญ่
  • Machine Learning Engineer มีหน้าที่ในการสร้างและฝึกโมเดล Machine Learning โดยใช้ Big Data
  • Business Intelligence (BI) Developer มีหน้าที่พัฒนา Dashboard และรายงานเชิงวิเคราะห์สำหรับฝ่ายบริหาร อธิบายและแปลงผลข้อมูลเชิงลึกให้เข้าใจง่ายขึ้น

ทักษะที่จำเป็นในงานสาย Big Data

  • ทักษะด้านการเขียนโปรแกรม เช่น การใช้ Python การใช้ Java/Scala การเขียนภาษา SQL เป็นต้น
  • การใช้งานเครื่องมือ Big Data ในการจัดการและประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก เช่น  Apache Hadoop Framework, Apache Spark Framework เป็นต้น
  • ทักษะด้านฐานข้อมูล (Database Skills) มีความรู้เกี่ยวกับฐานข้อมูลประเภทต่างๆ เช่น Relational Databases (SQL), NoSQL Databases เป็นต้น
  • มีความเข้าใจทางด้านสถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์เชิงอนุมาน
  • การทำ Data Visualization (การสร้างภาพข้อมูล) สามารถสร้างภาพข้อมูลการนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Tableau, Power BI, Looker
  • สามารถใช้งาน Cloud Computing ในการประมวลผลและจัดเก็บ Big Data เข่น Amazon Web Services (AWS), Google Cloud Platform, Microsoft Azure 
  • มีความรู้และทักษะทางด้าน Data Governance และ Data Security

จะเริ่มเรียนรู้ Big Data ได้อย่างไร?

หากต้องการเริ่มต้นเรียน Big Data อย่างเป็นระบบ สามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1: เรียนพื้นฐานของข้อมูล

การทำงานกับ Big Data ต้องมีพื้นฐานความเข้าใจเรื่องข้อมูลก่อน เช่น การแยกประเภทข้อมูล การจัดโครงสร้างการตรวจสอบคุณภาพของข้อมูล เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 2: รู้จักเครื่องมือพื้นฐานของ Big Data

มีความรู้ความเข้าใจและสามารถใช้งานเครื่องมือ Big Data ได้ เช่น Hadoop, Apache Spark, Hive, Delta Lake, Apache Iceberg เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 3: ฝึกทักษะการเขียนโปรแกรม

การทำงานกับข้อมูลจำนวนมากจำเป็นต้องเขียนสคริปต์เพื่อดึง วิเคราะห์ และแปลงข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยภาษาที่ควรรู้ได้แก่ Python, Scala, R เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 4: เรียนรู้การใช้แพลตฟอร์ม Cloud สำหรับ Big Data

เรียนรู้การใช้งานแพลตฟอร์ม Cloud สำหรับ Big Data เช่น Google Cloud Platform (GCP), Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure

ขั้นตอนที่ 5: เรียนรู้จากโปรเจกต์จริง

ทดลองทำโครงการจริง ตั้งแต่การดึงข้อมูล การเตรียมข้อมูล ไปจนถึงการวิเคราะห์และนำเสนอผลงาน เพื่อให้เข้าใจหลักการทำงานได้อย่างลึกซึ้ง

Big Data เปลี่ยนโลกข้อมูลอย่างไรในปี 2025

Big Data ถือว่าเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดให้ตรงเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในองค์กรได้ อย่างไรก็ตามด้วยลักษณะเฉพาะของ Big Data ซึ่งมีข้อมูลจำนวนมากและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์จึงจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ

หากต้องการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI และ Big Data สถาบันอบรม Solution Impact พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัลด้วย Big Data โดยทีมวิทยากรมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AI สามารถออกแบบคอร์ส Big Data ภาษาไทยที่เหมาะสมกับผู้เรียนทุกระดับ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องหลักสูตรการฝึกอบรม สามารถสอบถามได้ที่ SOLUTIONS IMPACT

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ Big Data

Big Data สำคัญอย่างไรกับธุรกิจยุคใหม่?

Big Data คือแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่มาจากหลากหลายแหล่ง ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และอุปกรณ์ IoT ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจยุคใหม่สามารถวิเคราะห์และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มตลาด และประสิทธิภาพการทำงานได้ดียิ่งขึ้น

Data Analyst ทำงานกับ Big Data อย่างไร?

Data Analyst ทำหน้าที่เปลี่ยนข้อมูลดิบจำนวนมหาศาลใน Big Data ให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
– การรวบรวมและทำความสะอาดข้อมูล (Data Cleaning) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน
– การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องมือ เช่น SQL, Excel, Python, หรือ BI Tools เพื่อค้นหาความสัมพันธ์และแนวโน้มต่างๆ

ต่างกันอย่างไรระหว่าง Big Data กับ Data Analytics?

สรุปง่ายๆ คือ Big Data คือ “ข้อมูล” ขนาดใหญ่ที่ต้องจัดการ ส่วน Data Analytics คือ “กระบวนการ” ที่ช่วยแปลงข้อมูลเหล่านั้นให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึก (Insights)

AI เกี่ยวข้องกับ Big Data อย่างไร?

AI (Artificial Intelligence) และ Big Data มีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน โดยที่
การนำ AI มาผสมผสานกับ Big Data จึงช่วยสร้างระบบอัจฉริยะที่สามารถตัดสินใจแบบอัตโนมัติและตอบสนองแบบเรียลไทม์ได้ เช่น ระบบแนะนำสินค้าในอีคอมเมิร์ซ หรือระบบตรวจจับการฉ้อโกงในธุรกิจการเงิน 

อยากเริ่มเรียน Big Data ต้องมีพื้นฐานอะไรบ้าง?

ความเข้าใจพื้นฐานข้อมูล (Data Literacy): เช่น ประเภทของข้อมูล (Structured, Semi-Structured, Unstructured), การจัดโครงสร้างและการเก็บข้อมูล และความรู้ฐานข้อมูล (SQL)  เพราะเป็นเครื่องมือหลักในการดึงข้อมูลและจัดการข้อมูลที่มีโครงสร้าง